ข้อสงสัยของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเบื้องหลังการที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีนโยบายยกเลิกหวยออนไลน์ และความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่กับกลุ่ม 5 เสือกองสลากนั้น มันคืออะไรกัน เรื่องนี้คงต้องย้อนไปในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ตอนนั้น กระทรวงการคลัง โดยนายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง
พยายามแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา โดยบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
มีมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2549 ไม่ต่อสัญญากับตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ 5 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานสลากฯมายาวนาน รู้จักกันดีในนาม "5 เสือกองสลาก" แต่ละรายได้รับโควต้าขายสลากบริษัทละ 1 ล้านฉบับต่อ 1 งวด
เนื่องจากทำผิดกติกาและเงื่อนไขต่างๆ จนทำให้สลากมีราคาแพง
อ้างถึง
เจ้าของบริษัททั้ง 5 แห่ง กว้างขวางมากในวงการลอตเตอรี่
และแนบแน่นกับฝ่ายการเมืองทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ได้แก่
บริษัท สลากมหาลาภ,
บริษัท ปลื้มวัธนา (ชื่อใหม่ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์),
บริษัท ไดมอนด์ ล็อตโต้ เป็นของ "เจ๊แดง" หรือนางปลื้มจิตต์ กนิษฐ์สุด ขณะที่
บริษัท หยาดน้ำเพชร
และบริษัทบีบี เมอร์ชานท์ เป็นของ "เจ๊สะเรียง" น.ส.สะเรียง อัศววุฒิพงศ์
อย่างไรก็ตาม หลังจากยกเลิกสัญญากับทั้ง 5 บริษัทไปแล้ว ปรากฏว่าสำนักงานสลากฯไม่ได้ออกหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อเปิดให้มีตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามาทำสัญญา
จำหน่ายสลาก เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง ขณะเดียวกันก็ยังจำเป็นต้องมีตัวแทนจำหน่าย จึงกลายเป็นว่าสิทธิจำหน่ายสลากยังคงอยู่ในมือทั้ง 5 บริษัทต่อไป โดยไม่มีสัญญาทางกฎหมายผูกพัน
จากข้อมูลของสำนักงานสลากฯ พบว่าจำนวนที่พิมพ์จำหน่ายทั้งสิ้น 46 ล้านฉบับนั้น
จะจัดสรรให้รายย่อยส่วนกลาง 107,356 เล่ม รายย่อยภูมิภาค ซึ่งจัดสรรผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด
และคลังจังหวัด 192,649 เล่ม
และนิติบุคคล 6 หมื่นเล่ม แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าจะกระจายสลากอย่างไร จำนวนสลากดังกล่าวก็วนกลับมาที่ผู้จำหน่ายกลุ่มนิติบุคคล
โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นโควต้าของผู้ว่าฯและคลังจังหวัด
เพราะไม่มีคนจำหน่าย รวมถึงรายย่อยอื่นๆ ที่ได้รับโควต้า
แต่ไม่ต้องการขายปลีก จึงเลือกขายให้รายใหญ่ทันที ดังนั้น
จำนวน 46 ล้านฉบับ จึงน่าจะยังอยู่ในมือของเครือข่าย 5 เสือเป็นส่วนใหญ่
ปรากฏว่าการที่รายย่อยขายต่อให้รายใหญ่ หรืออาจจะมีขบวนการไปรวบรวมซื้อสลากจากรายย่อย โดยให้ราคามากกว่าส่วนต่างที่ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยได้รับจากกองสลากคู่ละ 6 บาท ทำให้น่าสงสัยอีกว่าเมื่อได้สลากครบแล้วจึงทำให้สามารถนำมาจัดรวมกลุ่มเลขสวย เลขเรียง หรือที่เป็นหมวดหมู่ได้หรือไม่ ประการสำคัญอาจมีส่วนทำให้ราคาขายส่งที่มาจากตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่จึงออกมาในราคาสูงกว่า 85 บาทต่อชุด และเมื่อมาถึงผู้ค้ารายย่อยจึงทำให้ราคาสลากสูงขึ้นไปถึง 110-120 บาทต่อชุด