ยุทธการเลือกตั้งที่มหาสารคาม...เป็นคำตอบอีกคำของคำถามที่ว่า...ประชาชนคนไทยฉลาดพอเพียงหรือยังเข้มแข็งหรือไม่...กับการไม่รับค่าใช้จ่ายสินจ้าง...ไม่ขายคะแนนไม่มีอะไรต้องสงสัย...พรรคการเมืองฝ่ายที่เป็นรัฐบาล...จะไม่ดำเนินการในทุกๆ รูปแบบ เพื่อจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายชนะไม่ใช่เฉพาะกับพรรคภูมิใจไทย...แต่หมายความถึงรัฐบาลทั้งคณะ และผู้กำกับผู้อำนวยการสร้างที่อยู่เบื้องหลัง...แต่ก็ยังเป็นเพียงฝันค้าง...เพราะถึงแม้จะได้คะแนนมาอย่างมากมาย...แต่ก็ยังไล่ไม่ทันกับคะแนนของพรรคเพื่อไทย...แพ้ชนะกันไปอย่างเฉียดฉิว แต่ไม่เหนือกว่าความคาดหมายอธิบายได้ว่า...ประชาธิปไตยในหมู่
ประชาชนนั้น...ได้พัฒนามาถึงขั้นที่... “ความช่วยเหลือ”...ต้องพ่ายแพ้ให้กับกระแส...อธิบายได้อีกว่า...หากมีการเลือกตั้งใหญ่ พรรคที่จะได้รับความนิยมจากประชาชนอย่าง...ถล่มทลายจะเป็นพรรคเพื่อไทย...พรรคที่ไร้เจ้าของพรรคที่ไร้แกนการนำพรรคที่ถูกกำหนดให้เป็น...พรรคต้องห้ามอธิบายต่อไปว่า...ประชาชนได้ตั้งตัวตนขึ้นมาแล้ว...เพื่อจะผลักดันพรรคเพื่อไทยให้เป็นพรรคนำของพวกเขา...บางพวกอาจจะมี ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในหัวใจ...บางพวกก็มีแต่
ประชาธิปไตยกับหัวใจที่ชิงชังเผด็จการแต่เมื่อรวมกันแล้ว...เขารวมกันเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง...แล้วพร้อมที่จะไปรวมกันกับเป็นอีกพรรคหนึ่ง...ทันทีที่พรรคเก่าถูกทำลาย...ประชาชน...เหล่านี้...เป็นประดุจฝูงผึ้งที่พร้อมจะแห่ไปสร้างรังใหม่...เมื่อเผด็จการสุมไฟไล่หรือเอาไม้มาทำลายรัง...ประชาชนสร้างพรรคการเมืองของเขาขึ้นมาแล้ว...เป็นพรรคที่ไร้ทำเลที่ตั้งปราศจากห้องหอที่ทำการ...แต่เป็นพรรคที่ก่อหวอดขึ้นในหัวใจของคนไทยที่รักในประชิปไตยพรรคนี้
กำลังจะมีคนมากกว่าครึ่งของประเทศเป็นฐานพรรคนี้เติบโตขึ้นทุกวันมีมวลชนเพิ่มขึ้นในแทบจะทุกๆ นาที...เลือกตั้งใหญ่เขาจะสร้างรัฐบาลของเขาขึ้นมา...ไม่นานข้างหน้าเขาจะเป็นทหารเพื่อรักษารัฐบาลของพวกเขา...แม่ทัพนายกองอาจจะทำปฏิวัติได้หลายครั้ง...แต่ทันทีที่ประชาชนทำปฏิวัติ...มันจะเป็นปฏิวัติครั้งสุดท้าย...ของชาติจะยืนตรงข้ามเพื่อรอพบกับความพินาศ...หรือยืนอยู่ฟากประชาธิปไตย...เพื่อชัยชนะร่วมกันไปกับมหาประชาชน
