บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

เมื่ออะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่ผิดอะไรที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลจะให้ฉายานายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า "หล่อหลักลอย" เพราะอาการต่อมผู้นำอักเสบข้ามปี จนทำให้การแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ยังไม่มีอะไรแน่นอน

ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไรและเมื่อไหร่ แม้นายกฯอภิสิทธิ์จะบอกว่าเรื่องนี้จะต้องได้ข้อยุติในปี 2553 นี้

แต่ปีหนึ่งมี 365 วัน ไม่ทราบว่าเรื่องตำแหน่ง ผบ.ตร. จะได้ข้อยุติในวันที่ 364 หรือวันที่ 365

หรือดีไม่ดีแทนที่จะได้ ผบ.ตร.คนใหม่ เราอาจจะได้รัฐบาลใหม่เสียก่อน

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. เกี่ยวพันถึงเสถียรภาพรัฐบาลโดยตรง ในเมื่อพรรคภูมิใจไทยที่ถือเป็นกลุ่มอำนาจที่สาม ถือหาง "จุ๋มชิงดำ" พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร.อย่างเต็มตัว เริ่มแสดงความไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่ชอบดึงเกม ทั้งเรื่อง ผบ.ตร. เรื่องโครงการต่างๆในรัฐบาลและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ในขณะเดียวกันเมื่อระดับหัวไม่ลงตัว ระดับล่างย่อมโดนกระทบชิ่งไปด้วย เมื่อไม่มี ผบ.ตร.มาตัดสินใจอนุมัติสั่งการในเรื่องต่างๆ ก็ทำให้งานของตำรวจไม่เดินหน้าเท่าที่ควร เงินงบประมาณหลายโครงการถูกตัดไปอย่างน่าเสียดาย ดูอย่างโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านไปหมาดๆ งบประมาณถูกตัดลดลงไปกว่าครึ่ง บางโรงพักที่เคยได้เบี้ยเลี้ยงเกือบแสนเหลือเพียงหลักพัน เงินแค่นี้เลี้ยงข้าวต้มตำรวจทั้งโรงพักมื้อเดียวก็หมดแล้ว

ทำให้หลายโรงพักต้องจำใจยอมรับสภาพ เมื่อไม่มีเงินซื้อน้ำมันก็จำเป็นต้องจอดตายรถสายตรวจ บางโรงพักจนตรอกต้องหันหน้าไปพึ่งธุรกิจสีเทา หมดสิ้นศักดิ์ศรีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

เมื่อการเมืองเข้ามาล้วงลูกตำรวจจนถึงจุดแตกหัก ทำให้คนสีกากีตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหลือแค่วินัยค้ำคอ ตำรวจก็จำเป็นต้องเลือกขั้วการเมืองที่ยังประโยชน์ให้กับตัวเอง

ทำให้ตำรวจแบ่งออกเป็นสี่สีสี่ฝ่าย สีแดงสีน้ำเงินอาจจะมากหน่อยเพราะความคับแค้นใจ ในขณะที่สีเหลืองและสีฟ้าดูจะมีจำนวนน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ

สถานการณ์เหมือนพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย กำลังยื้อแย่งมีดดาบเพื่อประหัตประหารฝ่ายตรงข้าม ต่างกันที่พรรคภูมิใจไทยถือด้ามมีด แต่พรรคประชาธิปัตย์กำปลายมีดโอกาสเจ็บตัวจึงมีมากกว่าเพื่อน สาเหตุก็เพราะพรรคประชาธิปัตย์เข้าไม่ถึงหัวใจของคนสีกากี ไม่สนใจว่าคนใน สตช.ต้องการนายประเภทไหน พรรคประชาธิปัตย์มองแค่ว่าตำรวจคนไหนจะสามารถสนองงานการเมืองให้ตนเองได้มากที่สุด

ดังนั้น เมื่อตำแหน่ง ผบ.ตร.ยังไม่เรียบร้อยลงตัว ปัญหาความวุ่นวายใน สตช.จึงมีอยู่ต่อไป และนับวันจะรุนแรงมากขึ้นเหมือนคลื่นใต้น้ำ

เมื่อนายกฯอภิสิทธิ์กล้าแสดงอาการไม่สนใจ "สัญญาณพิเศษ" ในขณะที่รองฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็บอกว่าพูดอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองเป็นแค่ดาวเคราะห์เท่านั้น พรรคภูมิใจไทยจึงกล้าขู่จะเปลี่ยนขั้วการเมือง ก็เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

จึงอยากจะเตือนให้นายกฯอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ระแวดระวังภัยในช่วงนี้ไว้ให้ดี ทั้งเรื่องการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.และคนเสื้อแดง ที่ขู่จะชุมนุมยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลจะยุบสภาฯหรือลาออก และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ที่พรรคร่วมรัฐบาลหันไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย โดยเอารัฐธรรมนูญปี 40 มาเป็นต้นร่างแก้ไข

ที่สำคัญก็คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ ที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติในเร็วๆนี้ เมื่อนายกฯต้องพึ่งเสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาล ก็อาจจะมีรายการฉีกหน้าเด็กดื้อกลางสภาฯ หรือไม่ก็ต้องมีข้อตกลงอะไรบางอย่างก่อนจะยกมือให้

เพราะ "สัญญาณพิเศษ" ในช่วงนี้แรงไม่ใช่เล่น.

"ลมสลาตัน"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker