*บำรุง บุญปัญญา ผู้ได้ฉายา"ราชสีห์อีสาน"นักพัฒนาอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลต่อแวดวงขบวนการเอ็นจีโอ และภาคประชาชนในอีสาน
โดย คุณรักเอ็นโตดี ห่วงประชาชน
31 ธันวาคม 2552
หมายเหตุ:อันเนื่องมาจากผู้ใช้นามสุรีย์ มิ่งวรรณลักษณ์ ได้เขียนบทความเรื่อง"ขุนนาง NGO กป.อพช.และวิธีคิดอำมาตยาธิปไตย"ลงในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของขบวนองค์การพัฒนาภาคเอกชน หรือ(NGOs)ว่าอยู่ตรงกันข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย
ต่อมาผู้ใช้นาม"รักเอ็นโตดี ห่วงประชาชน"ได้เขียนวิพากษ์ขบวนการNGOsอย่างเผ็ดร้อนเพิ่มเติม ไทยอีนิวส์เห็นว่าเป็นการวิพากษ์ในลักษณะของ"คนวงใน"ตอมกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนให้ได้เข้าใจว่าเพราะเหตุใด NGOs จึงมีบทบาทความเคลื่อนไหวในลักษณะต่อต้านประชาธิปไตย อิงแอบแนบชิดกับอำมาตย์เผด็จการ ทั้งนี้ผู้อ่านพึงใช้วิจารณญาณ และไทยอีนิวส์ยินดีเผยแพร่ในอีกมุมหนึ่งให้ หากผู้ที่ถูกพาดพิงจะมีปฏิกริยาโต้ตอบกลับมา
รางวัลจากลิ้มให้หัวหน้าสายยอดขายเข้าเป้า-ลิ้มมอบรางวัลทัวร์อียิปต์10วันให้พันธมิตรสายNGOไปทัวร์อียิปต์ หลังปิดสนามบินโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนสำเร็จ ในภาพนี้ก็มีสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมศักดิ์ โกศัยสุข พิภพ ธงชัย สุริยะใส กตะศิลา นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ สุริยันต์ ทองหนูเอียด เป็นอาทิ
กรูยังไม่ได้หายปายหนายดอก.....พอดีกรูก็ต้องไปทำมาหารับประทานดั่งเช่นชาวบ้านชาวช่องเค้าเหมียลล์กัลล์อะนะ...อย่างว่าอะนะ กรูมันประเภทปากหมาอะนะ จะให้ไปปากหวานเลียกะโปกแหล่งทุนหน้าโง่ทั้งหลาย กรูทำไม่ได้....และทำไม่เป็น ไม่เหมือนพวก "นักล่าโครงการ" ตัวพ่อ!!! อย่างพวก ไอ้เหี้ยมเปี๊ยก แมวเหมียว กับ ลูกกะโปก กป.อพช.อีสานของมัน!!!.....
เกิดมาแมร่งพวกมันไม่เคยทำมาหาแดกอะไรกับเค้าเป็น....แมร่งพวกมันวัน ๆ เอาแต่ปั่นโครงการและเข้า "เน็ต" หาข้อมูลแหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศ.....
ใน "ย่าม" ผ้าฝ้ายเนื้อดิบของมันอุดมไปด้วย "โปรเจค" มันพกติดย่ามไปร่วมประชุมกับทั้งภาครัฐและเอกชน ปะเหมาะเคราะห์ดีของพวกมัน แต่เป็นประเหมาะเคราะห์ร้ายของ "แหล่งทุนหน้าโง่" พอปิดประชุมสัมมนา พวกแมร่งก็ควัก "โปรเจค" สด ๆ ร้อน ๆ ยัดใส่มือแหล่งทุนทันที....
นัยว่า แมร่งพร้อมที่จะจำ MOU บัดเดี๋ยวนั้น....ไม่ต้องห่วงเพือกมันนะฮะ เพราะในยามใบเก๋าของมัน ไม่ว่าจะเป็นสำเนาทะเบียนบ้านเอย สำเนาบัตรประชาชนเอย ส่วนบัญชีธนาคารอะนะ....แมร่งเปิดมาเรียบร้อยแล้ว เปิด 2 ใน 3 ด้วยนะเฟ้ย.....
แหมพวกเมริงเนี่ยะแมร่งมืออาชีพเข้าขั้น "ชั้นเทพ" จริง ๆ นะสาดดด!!! (แต่ก็มีพลาดบ้างบางครั้งอะนะ....เนื่องจากแมร่งงานเยอะเลยรีบปริ้นต์ "โปรเจค" กลัวเดี๋ยวไม่ทันเที่ยวบินไฟล้ต์บ่าย.....แมร่งควักโปรเจคที่เตรียมไว้เสนอแหล่งทุนอื่น แต่เสือกลืมเปลี่ยนหัวโครงการและชื่อแหล่งทุนเก่า.....อายเค้ามั้ยละเมริง.....แสดงว่าพวกมันชั้นเทพจริง ๆ ครือว่า โปรเจคอันเดีนวเนี่ยะแมร่งเสนอไปหลายแหล่งทุน กะฟลุ้คอะนะ....จะได้เคลียร์บิลแบบเหนาะๆ อุไรวรรณ ๆ ๆ งัยสาดดด..ฮา ๆๆๆ)
นี่เห็นว่าไม่กี่วันมาเนี่ยะนะ...แมร่งพวกมันได้กระทำการ "อัตนิบาตรกรรมรวมหมู่" จัดทำโครงการล็อตโต เงินแมร่งรวมกันสัก 5- 6 ล้านอะนะ...แล้วไป "กรรโชกทรัพย์" งบประมาณ "ภาคประชาสังคม" ของ "พอช.ภาคอีสาน" จนโดน NGOs อื่น ๆ ต่างรวมกันสหบาทาซะงอมพระราม....และ "สำนักข่าวผ้าปูเตียง" ยังรายงานมาด้วยว่า กฐินสามัคคีกองนี้มีคนเข้าชื่อจองเยอะ.....ดี ๆๆๆ สมน้ำหน้าแมร่งพวกมัน
*เดชา เปรมฤดีเลิศ
กป.อพช.อีสาน เนี่ยะแมร่งมันชอบชี้หน้าด่าคนอื่น ๆ ทั่วทั้งอีสานว่า เป็น "นักล่าโครงการ" บ้างหละ "มิสเตอร์โปรเจค" บ้างหละ....แท้จริงแล้วเพราะพวกมันต้องการ "สร้างราคา" ให้กับตัวเอง...และข่มทับคนอื่นให้กลายเป็น คนชั่ว คนไม่ดี หากินกับโครงการ......
คนอื่นเมื่อถูกกราดหน้าอย่างนั้น จะไม่กล้าเขียนโครงการขอเงินแหล่งทุนแข่งกับพวกมัน....ครานี้ก็เข้าทางตีนพวกมันซิครับพี่น้อง พวกแมร่งได้โครงการคนเดียวสบายใจเฉิบ.....สาดดด
และไอ้ "พื้นที่ตำบลหมู่บ้าน"ที่มันขอเงินเค้ามาทำเนี่ยะนะ แมร่งก็ไม่เคยเปลี่ยนไปที่อื่นเลยอะนะ.....พัฒนาพ่อพัฒนาแม่มรึงเหรอ? ตั้ง 20 - 30 ปี ชาวบ้านยังยากจนอยู่อย่างเก่า ส่วนพวกเมริงแข่งกันออกรถใหม่ เปลี่ยนมือถือ มีโน้ตบุ๊คใช้กันทุกคน...อ้ายฉิบหาย!!!
ตอนก่อน ๆ กรูได้ร่ายยาวเกี่ยวกับการปฏิสนธิของ กป.อพช.ไปแว้ววว.....ทีนี้จะของเช็คหน้าตักพวก กป.อพช.อีสาน ดูซักหน่อย....ก็กรูสงสัยมานานว่าพวกแมร่งไม่เห็นมันทำอะไร วัน ๆ เห็นแต่แมร่งโผล่หน้าไปประชุมกับหน่วยงานนั่นหน่วยงานนี่ แล้วแมร่งเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย แล้วแมร่งเอาเงินที่ไหนไปแดกข้าวต้มรอบดึกที่ร้าน "ไอ้ก๊ก 24 น." ได้ทุกวัน ๆอะนะเชี่ย.......
หากจะว่าไปแว้ววว ..... "ขาใหญ่" ของ กป.อพช.อีสาน ก็ต้องยกให้เค้าหละ เปี๊ยก แมวเหมียว เอ้ยหามิได้เค้าครือ...... "ราชสีห์อีสาน" เปี๊ยก บำรุง บุญปัญญา ..ก็เป็นคนสุรินทร์ หมอนี่มันเป็นคนเรียนเก่งอะนะ ในราว ๆ ปี 2511 มันจบด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากคณะกสิกรรมและสัตวบาล สาขาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.....
หลังจากนั้นก็ไปรับราชการที่กรมพัฒนาที่ดินอยู่ 2 ปี พอปี 2513 เปี๊ยก แมวเหมียว ก็ไปเริ่มชีวิตนักพัฒนาอาชีพที่ชัยนาทกับ "มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย" ที่ก่อตั้งโดย NGOs โลกตัวพ่อครือ "ป๋วยปีแปกอ" อันถือเป็นบิดาของมันทางความคิด มันบอกว่า..... คนอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกฝ่ายซ้ายเค้าจะใช้ทฤษฎีชี้นำครือ "มาร์กซิสต์"ก็เรื่องของเค้า .....แต่ของกรูขอใช้ "ทฤษฎ๊ป๋วย" เป็นเบ้าหลอมสำคัญทางความคิดและการปฏิบัติจนตัวตายอะนะ....
เปี๊ยก แมวเหมียว เนี่ยถือเป็นหนึ่งในขาใหญ่ไม่กี่คนของ "สำนักวัฒนธรรมชุมชน" อันเป็นแนวคิดกระแสหลัก ที่ถือเป็น "คัมภีร์มรณะ" ของพวก NGOs โลก มากว่า 3 ทศวรรษ
เปี๊ยก-บำรุงเคยเขียนหนังสือชื่อ "ศรัทธาพลังชุมชน" ในนามปากกา "บุญเพรง บ้านบางพูน" ....ส่วนคนอื่น ๆ หนะหรือมีใครบ้างหนอ.?...อ้าว ก็นี่งัย "เสี่ยญัค" อภิชาต ทองอยู่ เจ้าของหนังสือ "จารึกไว้ในยุคสมัยที่ผุกร่อน" และ "สายธารสำนึกและความทรงจำ" ที่เมื่อก่อนเสี่ยญัคเนี่ยะเปล่งคำขวัญ "คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน"
แต่ปัจจุบันเค้าหันมาเปล่งคำขวัญ "คำตอบอยู่ที่รัฐสภา" ตะแกได้สวิง ผันตัวเองมาเป็น "นักการเมือง" เคยเป็นเลขาธิการและโฆษกพรรคมหาชน...แล้วก็สอบตกกราวรูดยกพรรคไปแล้วนั่นไง.....
นี่อีกคนเจ้าของหนังสือ "แนวคิดวัฒนธรรมชุมชนในการพัฒนา" ก็ บาทหลวงนิพจน์ ทียนวิหาร ยังงัยละ....เอ้อ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว แถมให้อีกคนครือ จารย์เสรี พงษ์พิศ อะนะนี่ แกก็เขียนหนังสือไว้เยอะแยะคัมภีร์ยุคแรก ๆ ก็นี่เลย "คืนสู่รากเหง้า" อะนะ.....ในสายนักวิชาการก็ "สำนักฉัตรทิพย์" จารย์ฉัตรทิพย์ นาถสุภา เข้าร่วมผสมปนแจม "ผลิตซ้ำทางความคิด" กันอยู่ตลอดเวลา......
การผลิตซ้ำทางความคิดของไอ้พวกสำนักแนวคิดวัฒนธรรมชุมชน....ก็ใช้ทุกวิถีทางแหละ ทั้งอบ ทั้งรมสานุศิษย์อย่าได้คิดนอกคอก....ไม่งั้นกรูไม่ให้เงินทุนเมริงนะเฟ้ย....ฮา ๆๆๆ พวกสำนักคิดนี้มันยังฝันหวานถึงอดีตอันหอมหวนลำดวนดง ยังคิดว่า ในหมู่บ้านยังมีความรักความเอื้ออาทรต่อกัน มีวัฒนธรรมประเพณี "ฮีต 12" "ครอง 14" กันอยู่....
ไม่เคยยอมรับความจริงหรอก.....ไปดูเถอะในหมู่บ้านทุกวันนี้ กรูว่า "ฮีต 12" อาจจะเหลือแค่ "ฮีต 1 ฮีต 2" เท่านั้น ส่วน "ครอง 14" กรูรูรูรรร์คิดว่า คงจะเหลือซัก คลอง 16 นครนายก เฮ้ยไม่ใช่ "ครอง 1 ครอง 2" อะนะ.....ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วโว้ยเปี๊ยกโว้ย....แหกตาดูข้อเท็จจริงกันบ้างว่ะ.....
นอกจากจะเพ้อฝันโรแมนติกอยู่กับวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับโลกยุคโลกาภิวัฒน์แล้ว แนวคิดของสำนักนี้ก็ยังปฏิเสธ "รัฐ" ไม่เอา "รัฐ" ด้วย โดยเสนอให้คนในชนบทต้องพึ่งตนเอง มี"สิทธิชุมชน"อะไรเทือกนี้แหละ...ท่องกันเข้าไป...ความจริงก็ออกแนว "อนาธิปัตย์"หน่าแหละ
สำนักนี้ชอบถวิลหาระบบอุปถัมภ์ ระบบอาวุโสในชนบท เวลาชาวบ้านมีข้อพิพาทกัน หรือผู้ชายไปหล๋อย "ตอกดาก" ชาวบ้านผู้หญิงหรือลูกเค้าเมียใคร มันก็ชอบให้ "สภาผู้เฒ่าผู้แก่" พวกเขียดตะปาด เอ๊ย!ปราชย์ชาวบ้านทั้งหลายมาแก้ไขปัญหา เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ไม่ต้องไปถึงกลไกรัฐ แความจริงก็คือแมร่งก็มุบมิบ ๆ อะนะหยวน ๆ กันไป......
กรูว่าก็คงจะเหมือนเวลาที่ พวกเอ็นโตดีขาใหญ่ไปหลอก"ล่อ"เด็กอาสาฝึกงานหรือน้อง ๆ เอ็นโตดีรุ่นใหม่ที่ศรัทธาในตัวเอ็นโตดีขาใหญ่อะนะ.... สภาขุนนางน้อย "กป.อพช.อีสาน" ของพวกมันก็มุบมิบ ๆๆๆ หยวน ๆ กันไปงัยสัดด.....ตัวจริงของเอ็นโตดีขาใหญ่ทางอีสานบางรายเนี่ย แมร่งคงจะชอบพอกับ "เสี่ยชูวิทย์"อะนะ.....เอ้า.... ก็ครือชอบ "ลงอ่าง" งัย.. คนที่ดูแลจัดการเรื่องนี้อย่างดีและมิดชิด "ปิดลับ" ก็ครือ "ไอ้เชี่ยเอ๋"ลูกชายหัวแก้วหัวขวดของ ครูเสียว เอ๊ย! ครูสน รูปสูง ยังงัยหละสาดดดด....จริงไม่จริงไอ้เอ๋ชี้แจงมาเลยมรึง.....
เอ้อ.....เรื่องไอ้เอี้ยมเอ๋ ลูบต่ำ เนี่ยะ กร้อมีเรื่องเล่าสักเล็กน้อย ฟามจริงไอ้เอี้ยมเอ๋เป็นเด็กดีอะนะ...เรียนหนังสือเก่งจบวิด'วะ มอ.ขอ. อะนะ การงานก็ดีอยู่ แลนด์แอนด์เฮาส์ ขอนแก่นอะนะ เงินทองก็ไม่อดไม่อยากอะนะ.....แต่เวลาเมาทีไรก็ใกล้เคียงสุนัขอะนะ แมร่งพอตื่นมาวันใหม่แมร่งจะจำอะไรไม่ได้ ดีน๊า...แมร่งยังจำชื่อพ่อแมร่งด้ายยยสาดดด.....
เพื่อนรุ่นใกล้ ๆ กันที่เป็นแอ๊กติวิสต์ใน มอ.ขอ. สมัยนั้นก็มี อุทาน ออมอด ทินกร อ่อนประทุม เทือก ๆ นี้แหละ....และที่สำมะคัญไอ้เอี้ยเอ๋เนี้ยะก็สนิทสนมกับไอ้เอี้ยมยะไส อะนะ....และเอี้ยมบวกเอี้ยม ก็เป็นที่มาของ "โคตรเอี้ยม" งายยยสาดดด....
ช่วงต้นปี 2549 พันธมารฯ เพิ่งรวมตัวใหม่ ๆ มีการระดมพลครั้งใหญ่เพื่อไปชุมนุมใหญ่สนามหลวงอะนะ....เผอิญว่า ส.วา หรือ ครูสน รูปสูง เนี่ยะนะ แกเป็นสหายเก่า เขตงาน 196 (หนองบัวแดง ภูเขียว ฯ ล ฯ) ที่ หมอพลเดช ปิ่นประทีป เข้าไปอยู่ในป่าด้วยกัน...สองคนเค้าก็รักกัน ผูกพันกันมาอะนะ...
หมอพลเดช เนี่ยก็คือน้องเล็กของ เสด็จพ่อเอ็นโตดีประเวศ วะสี นั่นไง...ก็พวกเหลืองทั้งน้านอะนะ....เรื่องเงินไม่ต้องห่วงมีเยอะแต่กำลังคนของหมอพลเดชไม่มีอะนะ.....จึงประสานงานมายัง ส.วา ให้ระดมพลภาคอีสานครั้งใหญ่ โดยให้เงินมา 1,000,000 บาท (อ่านว่าหนึ่งล้านบาทถ้วน) คือให้จัดระดมคนไปสัก 100 คันรถบัสอะนะ.....
ไอ้เอี้ยมเอ๋ ลูกครูสนก็ได้รับภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ให้ไปรับเงินล้านที่โคราชอะนะ.....โดยจะมีคนของหมอพลเดชจากกรุงเทพฯนำมาส่ง....รู้สึกคุ้น ๆ หน้าอะนะ น่าจะเป็นพวก "สโหย" เอ้ย สหายเก่าอะนะ.....ผมขาว ๆ บาง ๆ หัวเถิก ๆ มีอายุแล้วอะนะ.....พวกเมริงอยากรู้รายละเอียดให้ถามไปยัง Thai YT กร้อแล้วกัน เห่อ เห่อ เห่อ.....
ไอ้เอี้ยมเอ๋ นัยว่าตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ.....นี่นับเป็นครั้งแรกที่กรูได้รับเกียรติเข้าร่วมแบกรับ "ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของประชาชน".....กรูต้องทำเป้าหมายให้บรรลุให้ได้.....ว่าแล้วก็ตื่นแต่เช้ามืด อาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย เตรียมเดินทางจากขอนแก่นไปโคราชจุดนัดพบ.....เฮ้ย ไปคนเดียวแมร่งไม่ปลอดภัยแน่ ๆ เดี๋ยวมีเสียวว๊อยยย.....มันจึงโทรตามนักดนตรีเพื่อชีวิตเหลืองอ๋อยผู้ตกทุกข์ได้ยากอยู่ขอนแก่นมาหลายปี...ก็เค้าหละ ไอ้เอี้ยมสุทธี ปุราทะกา นั่นงัยสาดดด....
เมื่อรับเงินมาแล้วก็ประสานงานทั่วภาคอีสานทันใด....อย่างว่าน่าแหละ ส.วา แม้จะเป็น "กระบี่มือหนึ่งของอีสาน" แต่ช่วงหลังเกิดวิกฤติศรัทธาภายในองค์กรของแกมาหลายระลอกจึงไม่มีกำลังมวลชนอยู่ในมือมากนัก.....เห็นไปใหนมาใหนก็ไม่เคยเกินสองสามคนอะนะ....ส่วน ไอ้เอี้ยมเอ๋ เนื่องจากขาดประสบการณ์ทางการเคลื่อนไหว "ใต้ดิน" และ "ในรู" (แมร่งถนัดแต่เคยเอาเอ็นแหย่รู.....ฮ่า ๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวกับ "ไอ้หมอ คณะแพทย์ มอ.ขอ." หัวหน้าแก๊งเหลืองอ๋อยจังหวัดขอนแก่น แมร่งกร้อไปหลอก"ล่อ"เลขาฯสาว ของ ไอ้เชี่ยหมอเหลืองอ๋อย จนเมียที่บ้านต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปแว๊วว...แมร่งเลวจริง ๆ...)....
ดังนั้น ไอ้เอี้ยมเอ๋จึงถูกเค้าหลอกแดกเงินไปหลายพื้นที่ เรื่องนี้ให้ไปถามจำพวกก หินชนวน อโศกตระกูล รัฐสภา นามเหลา อวยชัย วะทา คำตา แคนบุญจันทร์ จะได้คำตอบเด็ด ๆ อะนะ.....ก็แมร่งเพรียกนี้ เสือหิวทั้งนั้น และบางคนกร้อไปรับ "จ๊อบ" ทักษิณมาแว๊วว....เพรียกมันส์กร้อให้ไอ้เอี้ยมเอ๋โอนเงินไปให้...
แต่อนิจจา เมื่อถึงเวลานัดหมาย....แมร่งไม่มีหมาโผล่มาสักตัว.....สาดดดด....รถบัสที่เค้าให้ไปหามาขนาดทำแบบ "อม ๆ เงิน" กันแล้วอะนะ รถบัสก็ยังมีมา 32 คัน แต่โทษทีว่ะคุณหมอพลเดชขา....ในแต่ละคันมีคนอยู่สองสามคน...ว่ากันว่า พวกไอ้เอี้ยมสุทธี ทั้งนอนทั้งตีลังกาไปจนถึงสนามหลวงแบบสบายดากอะนะ....งานนี้กรูถูกตุ๋นซะเปื่อยหนอกรูหนอ....ไอ้เอี้ยมเอ๋...ได้แต่รำพึงรำพันกับขวดเบียร์....เชี่ย แมร่ง ถูกตุ๋นนะดีแว๊ววว ดีกว่าถูกตุ๋ย ฮา ๆๆๆ (ยังมีนิทานเกี่ยวกับพ่อลูกคู่หูดูโออีกหลายเรื่องแต่ขอเก็บไปเล่าที่หลังอะนะ....ก็กรูบอกแล้วงัยสาดดด แมร่ง เรื่องมันยาว!!!)
อ้าว...แล้วเรื่องที่รำลือกันว่า "ราชสีห์อีสาน" เปี๊ยก แมวเหมียว เป็น "บ้า" หรือว่า "เพี้ยน" ไปแล้วช่วงหนึ่งมันเป็นยังงัยกันแน่...เป็นแค่ข่าวลือ การปล่อยข่าวของคู่อริฝ่ายตรงข้ามหรือป่าววว.....เอ้า พวกเมริงอยากรู้นัก นั่งฟังเงียบ ๆ นะเฟ้ย ห้ามถามห้ามแย้งเดี๋ยวกรูจะหลงประเด็น...เพราะเรื่องมันนานมาแล้ว...
*ครูสน รูปสูง
ในโจกโหลกฟ้ายุทธจักรอีสานเนี่ยะ ที่ว่า "ขาใหญ่" ฝ่ายประชาชนนี่นะในรอบ 25 ปี หลังป่าแตกมาเนี่ยะก็ต้องยกให้ "สามมือกระบี่" ครือ หนึ่ง เปี๊ยก แมวเหมียว สอง เสียว ลูบต่ำ เอ้ย สน รูปสูง สาม "ไอ้เพิก ประชาธิปัติย์"-สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ (.....เหตุที่จารย์สมเกียรติมีชื่อ"เพิก"ก็มาจากยุคสมัยคอมมูนิสต์กำลังคึกคัก บังเอิญมีหนังไทยเรื่อง "ชุมแพ" โด่งดังในช่วงนั้นพอดี พระเอกก็เก่งฉิบหายอะนะ พระเอกเรื่องนี้ชื่อ ไอ้เพิก ชุมแพ ไง... จำหนังตอนจบไอ้อะป่าว....."ผมร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมาาาา"...เอ้า ฮา ๆๆๆ.....
ความจริงไอ้เอี้ยมเพิกเหลืองอ๋อยเนี้ยะอะนะ ไม่ได้เข้าป่าเป็นสโหย สหายเชี่ยอะไรกะเค้าหรอก....แมร่งเคยขอเข้า "พรรค" อะนะ...ก็สาย "ประสานมิตร" ที่มีขาใหญ่ "จารย์ศิลปเสริฐ โพธิ์แก้ว" ดูแลอยู่น่าแหละเค้าไม่เอา พวกเค้าเห็นว่า แมร่งทฤษฎีก็ไม่ชัดเจน เคลื่อนไหวโฉ่งฉางมาตั้งแต่เป็นแอ๊คติวิสต์แว้ววว.....
เผอิญช่วงหลัง 14 ตุลาคม 2516 กระแสสังคมนิยมพุ่งสูงปริ๊ดส์ มีการจัดตั้ง "พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย" (พสท.) ก็เห็นหน้าแอ๊คติวิสต์สำคัญหลายคนเข้าร่วมก่อตั้งด้วย อาทิ ธีรยุทธ บุญมี ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ฯ ล ฯ.....เป็นงัยละแต่ละตัว ตอนหลังแมร่งมาเป็นลูกกะโปกไอ้ลิ้มโกเต๊กซ์ทั้งน้านเลยสาดดด....
พรรค พสท. เนี่ยะ เมื่อเข้าป่าก็ไปเป็นแค่ "แนวร่วม" ของ พคท. อะนะ.....แต่พวกมันก็ต้องมี "ชื่อจัดตั้ง" ด้วยอะนะ....ความจริงหากใครสนใจประวัติศาสตร์ฝ่ายซ้ายกร้อจะรู้ดีว่า พวก พสท. เค้าจัดตั้ง "หน่วยพรรค" ของเค้า และมีชื่อจัดตั้งกัน ตั้งแต่ตอนอยู่ในเมืองแว้ว......ด้วยเหตุดังนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อจัดตั้ง "ส.เพิก ชุมแพ" ยังงายละอ้ายยยสาดดด.....แมร่ง ดูที่มาของชื่อจัดตั้งแล้ว ช่างโคตรเป็น "วิทยาศาตร์สังคม" เหลือเกินนะอ้ายเอี้ยยยยม ....
เอาละ.....ทั้งสามพระหน่อเนี่ยะ เค้าได้แบ่งบันตำแหน่งแห่งที่ในสำนักตักศิลาเอ็นจีโออีสานอีสานกันไปตั้งนานแว้ววว....ห้ามใครมาแย่งอะนะ..ไม่งั้นมีเคือง ฮา ๆๆๆ
ไอ้ตำแหน่ง "ประธานสำนักอีสาน" มอบให้ เปี๊ยก แมวเหมียว เนื่องจากอาวุโสมีอายุมากกว่าเพื่อน "รองประธานสำนัก" ก็ต้องเป็น สน รูปสูง เอาไว้คอยเลื่อยขาเก้าอี้เปี๊ยกงัยสาดดด....ส่วน "นายกรัฐมนตรีอีสาน" นี่มันต้องเป็นของ เพิก ชุมแพ แหง๋มอยู่แว๊ววว....
ขอรวบรัดตัดตอนหละกัลล์....(เพราะแมร่งเรื่องมันยาวขอเก็บเอาไว้เล่าอย่างละเอียดในตอนที่พูดถึงขบวนการประชาชนอะนะ).....เมื่อตกลงตำแหน่งกันเสร็จสรรพก็เคลื่อนไหวทันที.....เผอิญช่วง 2533-34 มีการต่อสู้เรื่อง "คจก." หรือโครงการจัดสรรที่ทำกินที่ทหารเข้าไปทำ ไปไล่ชาวบ้านที่บุกรุกเขตป่าสงวนออกจากพื้นที่ แล้วเอาไปทิ้งๆขว้างๆไว้ตามที่ดินที่ทหารจัดสรรให้ ส่วนใหญ่ก็เป็นที่ไม่เหมาะแก่การปลูกพืชทำไร่ไถนาหรอก เช่น มีแต่กรวดมีแต่หิน ส่วนที่เดิมก็ดันเอาไปให้นายทุนปลูกไม้ยูคาฯ แล้วอ้างหน้าตาเฉยว่าปลูกป่า
พวกเอ็นโตดีก็เลยเข้าไปเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการ คจก. ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ มันก่อรูปการเคลื่อนไหวโดย "กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาจาก 5 ค่าย ม.รามคำแหง" ร่วมกับ "กลุ่มครู" (ที่ต่อมาก่อรูปเป็น "สภาองค์การครูเพื่อสังคม"-สคส.) ที่มี ส.วา กับ ส.เพิก ดูแลอยู่ ภายใต้การหนุนช่วยอย่างใกล้ชิดจากทีมงานสลัมคลองเตย "มูลนิธิดวงประทีป" อะนะ...
สู้กันยังไม่ทันรู้แพ้รู้ชนะกร้อต้องหยุดพักรบ...เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อช่วยกันขับไล่ "รสช." อะนะ...หลังชัยชนะของฝ่ายประชาชนในเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ 2535" การเมืองเปลี่ยนทิศทาง ฝ่ายประชาชนเป็นใหญ่ใครจะต่อสู้เรื่องอะไรก็ง่ายละทีนี้.....
เปี๊ยก แมวเหมียว ประเมินสถานการณ์แย๊วว....ชนะแน่ ๆๆๆๆ!!!! จึงเรียกระดมไพร่พลขนานใหญ่....อย่างว่าอะนะ พรรคพวกของเปี๊ยกเนี่ยะร้อยวันพันปี แมร่งไม่เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประท้วงเหี้ยอะไรกับเค้ามาก่อน...ก็แมร่งมันทำตัวเป็น "แหล่งทุนชั้น 2" ครือ หาเงินจากแหล่งทุนแล้ว มาจัดสรรผลประโยชน์ลงไปให้ชาวบ้านอีกที แล้วจึงส่ง "นักพัฒนา" ลงไปฝังตัวทำงานในพื้นที่ที่ได้เงินตาม "โครงการขนาดเล็ก" ที่ช่วงหลังรู้จักกันดีในนาม PRC. อันโด่งดัวยังงัยละสาดดด....
PRC. ก็เป็นคนพิจารณาว่าจะให้เงินกับใคร อันนี้กรูให้คำนิยามว่า แนวทาง "เอาเงินล่อ แล้วตามด้วยกะดอเสียบ" อะนะ ฮา ๆๆๆ..... ครือ ใครไม่เชื่อฟังกรู ต่อไปกรูไม่ให้อะนะ....และแนวทางการทำงานก็คือ งานพัฒนาชุมชนจ๋าอะนะ เค้าเรียกว่าแนวพวก "งานเย็น" กรูเห็นแล้วไม่ใช่เย็นธรรมดาอะนะ...แต่แมร่งเย็นเป็น "น้ำแข็ง" เลยละ.....
ทีนี้เมื่อ ราชสีห์อีสาน ส่งเสียงคำรามแล้ว.....องค์กรไหน หรือเอ็นจีโอคนไหนถ้าไม่มาร่วมม็อบ คจก.ช่วยกรู ครั้งต่อไปกรูจะไม่ให้เงินพวกเมริงไปทำโครงการพัฒนา.....
หลังเสร็จศึก คจก. เปี๊ยก แมวเหมียว ก็ถูกรุมวิจารณ์จากหลายส่วนว่า สั่งการบีบบังคับชาวบ้านด้วยเงินอะนะ...แมร่งกร้อเลยเริ่ม เพี้ยน ๆ กลับไปอยู่บ้างบางวันเกิดเฮี้ยนขึ้นมาก็นึกว่าตัวกรูเป็น "ลี้คิมฮวง" ซ้อม "ซัดมีดสั้น" ใส่ต้นกล้วยหลังบ้านอะนะ.....จนต่อมาเมียทนไม่ไหวหอบลูกหนีไปเลยสาดดด....คราวนี้แมร่งจึงเป็น "บ้า"จริง ๆ เพิ่งมาฟื้นคืนชีพก็ตอนได้เอ๊าะ ๆ มาไม่กี่ปีนี่หรอก).....
*สุนทรี เซ่งกิ่ง
ดอกผลจากการเคลื่อน คจก. ของกวกมันครือได้องค์กรภาคประชาชนมา 1 องค์กรอะนะ คือ สดท. โดยมี เปี๊ยก สะด๊วบตำแหน่ง ประธาน องค์กรเองแมร่งซะเลย....ส่วนเลขาธิการนะหรือก็คือไอ้เอี้ยมนก-ภาคภูมิ นั่นไง.....(เรื่องนี้จะนำไปเล่าพร้อมกับองค์กรประชาชนภาคอีสานอื่น ๆ ภายภาคหน้าหากมีโอกาส....และยังมีเรื่องเด็ด ๆ ระหว่างม็อบ คจก. และหลังจากนั้นที่เกี่ยวข้องกับ เปี๊ยก แมวเหมียว และขบวนการ กป.อพช.อีสาน อีกเพียบ มันส์พะยาค่ะ....)
....เอ้อ.....เนื่องเพราะประชาชนเรียกร้องเรื่องเกี่ยวกับ เปี๊ยก แมวเหมียว กันมามากเหลือคณานับ....กรูขอแถมท้ายเป็นของขวัญปีใหม่พวกเมริงแล้วกัลลล์......ก็เพราะเปี๊ยก แมวเหมียว กับ ลูกกะโปก กป.อพช.อีสาน เนี่ยะนะชอบเพลงสายัณห์ สัญญามัก ๆๆ....ก็ "ไอ้หนุ่มรถไถ" ยังงายสาดด....ช่วงที่กระแสการเคลื่อนไหวฝ่ายประชาชนอีสานกระแสสูงเหมือนผีพุ่งไต้ เป็นช่วงหลัง "ม็อบ 9 ปัญหา ยกที่ 1" ของ "สกย.อ."(สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน ซึ่งมีโย-บำรุง คะโยธา เป็นแกนนำ) แล้วเสร็จหมาด ๆ อะนะ.....
อยู่มาวันหนึ่งมี "แหล่งทุนฝรั่งหน้าโง่" เข้ามาตามหา "หัวหน้า สกย.อ" อะนะ เพื่อจะให้การสนับสนุนเป็นเงินจำนวนโขอยู่.....แมร่งพอไอ้ฝรั่งตัวแทนเค้ามา เปี๊ยก-บำรุง แล้วก็ไอ้เอี้ยมเดชา ไอ้เอี้ยมป๋า-สมภพ และลูกสมุน กป.อพช.อีสาน ก็พาไอ้ฝรั่งตัวแทนแหล่งทุนขับรถตระเวณไปทั่วอีสานเกือบทุกจังหวัดอะนะ....แมร่งพาไปดูโน่นดูนี่กะสร้างภาพหลอกแดกอะนะ....
จนในที่สุดไอ้ฝรั่งดังกล่าวก็หมดความอดทน พูดขึ้นว่า....."ยู ยู ยู.. ไอ อยากเจอกับหัวหน้าม็อบ สกย.อ. ที่ชื่อ บำรุงๆ เมื่อไหร่จะได้เจอซะทีหา?" ฝรั่งก็ถามบ่อยอะนะ พวกนี้พานั่งรถไปไหนแมร่งก็ถามแต่คำเดิม....อยากเจอ บำรุง อยากเจอบำรุง ไอ จะให้มันนี่ ไออยากกลับบ้านแว้ววว.....ไอ้เอี้ยมเดชา ไอ้เอี้ยมป๋าสมภพ กับไอ้เอี้ยมต๋อม เลยพูดและชี้ไปที่ เปี๊ยก-บำรุง บุญปัญญา เกือบจะพร้อมกันว่า.....ยู ยู ก็นี่ไง"บำรุง" ก็นั่งรถมาด้วยกันตั้งหลายวันแล้ว เอ้าสัญญามาเซ็นโอนเงินได้เลย.....
ไอ้ฝรั่งมันเลยหันไปถลึงตาใส่พร้อมตะคอก แปลเป็นไทยว่า....."ไอ้เอี้ยยยย ไอ้สาดดด ที่ ไอ ยากเจอและจะให้เงิน คือ บำรุง คะโยธา โว้ย ไม่ช่ายบำรุง บุญปัญญา!"
*บำรุง คะโยธา
....เอ้า พวกเมริงช่วยกรู "ฮา" ดัง ๆ หน่อยเถอะว่ะ เชี่ยสัดดดๆ......
กระนั้นก็ดี ในใต้หล้ายุทธจักรบู้ลิ้มเอ็นจีโออีสาน.....จึงกล่าวได้ว่า พวก กป.อพช.อีสาน ครอบครองความเป็นเจ้ามาเกือบ ๆ 30 ปีอะนะ.....โดยมี "ราชสีห์อีสาน" เปี๊ยก แมวเหมียว เป็นกุนซือตัวพ่อ รุ่นไล่ ๆ กันที่ทำตัวป็นเสนาธิการก็ที่เค้าเรียกมันว่า "ป๋า" สมภพ บุนนาค มีอดีตเป็นแอ๊คติวิสต์ มศว.บางแสน รุ่น ๆ สุวิทย์ วัดหนู น่าแหละ เข้าดงเข้าป่าไปเป็นสหายกะเค้าเหมือนกันทางภาคใต้อะนะ....พอออกจากป่ามา ก็มาเป็น "สโหย"อยู่แถวอีสาน ทำงานกับแหล่งทุนคือ"แพลน"แถว ๆ ขอนแก่น......
*"ป๋า"-สมภพ บุนนาค
ป๋าสมภพคือตัวเดินเกมในอีสานให้กับพันธมารฯ... พวกเหี้ยมเนี่ยะนะก็ลูกกะโปกไอ้ลิ้มโกเต๊กซ์ทั้ง กป.อพช.อีสาน น่าแหละ......ไอ้เหี้ยมป๋าเนี่ยะ หลังจากที่พาตัวเองไปรับใช้ไอ้ลิ้มโกเต๊กซ์ยังไม่พอ ยังช่วยกันเชียร์ทหารให้ออกมาทำรัฐประหาร พอ คมช. ยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549....ข่าวว่าพวกนี้ฉลองกันยันสว่างเลย......
แหะ ๆๆๆ เอาละมรึง ถึงทีกรูแล้ว เจ้านายคงตบรางวัลกรูชิ้นใหญ่เป็นแน่แท้.....นายลิ้มฯ นายบัง คงไม่ทอดทิ้งกรูแน่ ๆ ก็กรูอุตสาห์เอาเกียรติภูมิของกรูที่สั่งสมมาตลอดชีวิตทั้งในแวดวงฝ่ายซ้ายคนเดือนตุลา กับแวดวงเอ็นโตดี กรูต้องได้ตำแหน่งสำคัญ ๆ ในรัฐบาล คมช.แหง๋ม ๆๆ เลย.....โหย!แมร่งไปเสนอตัวเป็น สว.ลากตั้ง เหมือนพวกเอ็นโตดีหลายคนในตอนนั้นแห่กันไปเสนอชื่อกับอำมาตย์ขอเป็นสว.มั่ง เป็นสนช.มั่ง แมร่งคิดว่าเค้าจะลากตั้งให้เป็น....
ผลปรากฏว่าไอ้เหี้ยมป๋าเนี่ยะวื้ดอะนะ....ส่วนพวกเอ็นโตดีอีกหลายคนที่เสนอหน้าด้านๆขอเป็นสว.ลากตั้งก็มีศยามล ไกรยูรวงศ์ เมียไอ้นก-ภาคภูมิ ,วิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ,เรวดี ประเสริฐเจริญสุข ตอนนั้นเป็นประธานกป.อพช.ชาติ แล้วก็เอ็นโตดีขี้เหลือง บรรจง นะแส
สรุปแดกแห้วเรียบ อุตส่าห์เป็นนั่งร้านให้คณะรัฐประหาร เป็นบันไดให้โกเต๊กซ์ลิ้ม เขาไม่เอาพวกแม่งซักตัว...เห็นแล้วสังเวช พวกเมิงยังจะมาแหกปากเรียกหาประชาธิปไตยหาพ่องทำไมอี๊ก...กรูอายแทน!!
กล่าวสำหรับไอ้ป๋าป่านนี้มันยังงงไม่หาย อุตส่าห์รับใช้เจ้าจนตัวจะตาย รับใช้นายจนจะหมดแรง....แมร่งทำกรูด้ายยยย ฮา ๆๆๆ อิอิอิ เฮี่ย ๆๆๆ.....อย่ากระนั้นเลย กรูเก็บกระเป๋าเข้ากรุงเทพฯจะได้ไปอยู่ใกล้ ๆ ศูนย์กลางอำนาจ คราวหน้ากรูจะได้ไม่หน้าแตกหมอไม่รับเย็บอีก......แมร่งจึงไปกินตำแหน่ง "ผู้จัดการ" ของ "สมาคม/สหพันธ์เกษตรกรเพื่อการพัฒนา" (สกพ.) องค์กรในคาถาของ ส.ชิต กรมการเมืองขี้เหลืองอ๋อยคู่ปรับของ ส.ดิน เลขาธิการใหญ่ พคท. คนนั้น.....
นอกเหนือจากคนระดับ "สโหยป๋าสมภพ" แล้ว....มือกระบี่รอง ๆ ในทางอีสาน ก็ อาทิ เดชา เปรมฤดีเลิศ ตอนนี้กำลังศึกษากำลังภายใน เอ๊ย! หามิได้กำลังอินกับการค้นหาตัวตน "ด้านใน" ตาม เสี่ยประชา หุตานุวัตร ณ อาศรมวงศ์สนิท
นอกนั้นก็มี จรินทร์ บุญมัธยะ คนมีเมียเป็นด๊อกเตอร์ทางมานุษยวิทยานี่ก็แหร่มเลย....เอียด ดีพูน นี่ก็ผสมผสานยั่งยืนพอเพียงมาจนหงำเหงือกแล้ว......
*สมพันธ์ เตชะอธิก เอ็นจีโอนักวิชาการเหลืองอ๋อย
....โกวิทย์ กุลสุวรรณ ยังมั่นยืนอยู่ที่ เนท สุรินทร์..... "เสธหนั่น" สนั่น ชูสกุล นี่เอ็นโตดีคนใต้แต่มาอยู่สุรินทร์ตั้งแต่จบธรรมศาสตร์ ตอนนี้กำลังงง ๆ กับเงิน 700 ล้านบาทที่เดอะมาร์ค ปชป.โยนมาให้ชาวเขื่อนราศีไศลแย่งกันอีก ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย คอยดูฝีมือพวกเมริงอยู่นะว้อย.....เสน่ห์ วิชัยวงษ์ ผันตัวเองไปอยู่กองทุนฟื้นฟูฯ วันดีคืนดีก็ลงสมัคร ส.ส. กะเค้าบ้างเผื่อฟลุค เพราะสมัยทำเอ็นโตดีเนี่ยะหว่านเงินไว้เยอะในพื้นที่คะแนนน่าจะมาบ้างว่ะ ผิดคาดสอบตกครือเก่า.....เจ๊สุนทรี เซ่งกิ่ง เอ็นโตดีตัวแม่ นางนี่อะนะ รับใช้ไอ้แป๊ะลิ้มออกหน้าออกตา... "โตหัวล้าน" พูลสมบัติ นามหล้า นี่อีกคนก็หารับประทานในการวิจัยประเมินผล .....
.....โอ้ พระเจ้า"ยอร์ช" อกนิษฐ์-ปรียานุช ป้องภัย สองคนผัวเมีย โดยเฉพาะเจ๊เตยเอ็นโตดีตัวแม่อีกอนงค์หนึ่งเนี่ยะ ชอบเจ้ากี้เจ้าการทำตัวเป็นเจ้าของแหล่งเงินอะนะ ทำตัวเป็นคนจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัวภายในอะนะ...แน่ละ คุณผัวของกรูก็ต้องได้มากกว่าคนอื่น...สาดดดด.....ขรรค์ชัย หงส์คำมี นี่ก็คนป่าเก่าแถว ๆ ภูซางอะนะ ก็เหลืองอ๋อยอีกตัว....."จารย์เป๋ง" - สมพันธ์ เตชะอธิก ก่อนนี้เป็นนักวิจัย RDI. หรือสถาบันวิจัยพัฒนา มข. ก็เป็น เอ็นโตดี เวียนว่ายอยู่ในยุทธจักรบู้ลิ้มสังกัดเจ้าสำนักแมวเหมียวเหมียนกัลล์ ทุกวันก็แทงหวยเสื้อเหลืองอีกคน......
*ภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์
.....ส่วนรุ่นถัดมาหน่อยก็มี จอมยุทธหลอก"ล่อ" ไอ้เอี้ยมนก-ภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ คนภาคใต้ทำกิจกรรมนักศึกษาค่ายอาสาพัฒนา ม.รามคำแหงมาทำงานอีสานในนาม มอส.รุ่นที่ 8 ก็อยู่ยาว ตอนนี้กลับไปอยู่ปักษ์ใต้บ้านเราแว้ว.....เห็น เสี่ยเสน่ห์ วิชัยวงษ์ บอกเป็นนัย ๆ ว่า....ไอ้นกเสน่ห์มันแรง เพราะออกแนวสูงยาวขาวตี๋เกาหลีญี่ปุ่น เลยได้หลอก"ล่อ"ไปทั่วจนไก่จะหมดวัดแล้ว ไม่เหลือมาถึงพวกกรูบ้างเลย พวกกรูเลยไล่แมร่งกลับปักษ์ใต้บ้านเราไปซะอ้ายยยสาดดด......
ตามมาติด ๆ กร้อ ไอ้เอี้ยมต๋อม จักรพงษ์ ธนวรพงศ์ นี่ก็มีปูมหลังเป็นนักกิจกรรมจากค่ายชาวเขา ม.รามคำแหง เหมือนไอ้เอี้ยมนกหน่าแหละ มาเดินหิ้วกระเป๋าตามก้นไอ้เอี้ยมเดชา ตั้งแต่สมัยต่อสู้เรื่อง คจก. โน่นจนบัดเดี๋ยวนี้ยังไม่ไปไหนมาไหน ปักหลักทำเรื่องป่า เรื่องสิ่งแวดล้อมแถว ๆ สุรินทร์อะนะ.....
.....เอ้อ.....เกือบลืมไป ประธาน กป.อพช.อีสาน คนปัจจุบัน เสี่ยวิพัฒนาชัย พิมพ์หิน นี่ก็ทำงานต่อเนื่องแถว ๆ ป่าดงลาน.....หมอนี่เหลืองกระทั่งกางเกงในจริง ๆ เค้าเป็นเจ้าของยุทธศาสตร์ "คู่ขนาน" คือหากภาครัฐมีนโยบายออกมาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาประชาชนอะไรก็แล้วแต่....กป.อพช.อีสานยุคของวิพัฒนาชัย ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลหน้าใหน ยกเว้น รัฐบาลเด็กดื้อมร์ค ปชป. (ก็จะให้คัดค้านได้ไง ในเมื่อพวกมันผลักดันไอ้มาร์คเข้ามาเอง ก็ต้องทนหวานอมขมกลืน ช่วยแมร่งไม่ได้จริง ฮา ๆๆๆๆ)
....ดังนั้นจึงเห็นประเด็นการเคลื่อนไหวภาคประชาชนในแนวทาง "คู่ขนาน" บ่อย ๆ ปะเดี๋ยวก็มี.... "ร่าง รธน.คู่ขนาน" "เศรษฐกิจคู่ขนาน" "ร่าง พรบ.นั่น พรบ.นี่คู่ขนาน".....อีกหน่อยหาอะไรเล่นไม่ได้ก็คงจะมีประเด็นการเคลื่อนไหวระดับ..."การหลอก"ล่อ"คู่ขนาน"แหง๋มเลย.....
แล้วอ้ายเพือกมีชื่อข้างบนแมร่งสลับกันเป็น "ประธาน" กป.อพช.อีสาน บ้าง สลับกันเป็น "เลขานุการ" บ้าง เลขาธิการบ้าง แล้วแต่แมร่งจะแต่งตั้งตำแหน่งกันเอง บางคนเคยเป็นประธาน เดี๋ยวกลับมาเป็นเลขาฯแมร่งมั่ว...ก็มันมีคนอยู่แค่เนี้ยะจริง ๆ .....ดูอย่างวิพัฒนาชัยเนี่ยะ เป็นมาซะ 2 สมัยแล้ว...สมัยหน้าเป็นไม่ได้แล้ว.....อ้าว มองไปทางไหนก็มีแต่คนเคยเป็นหมดแล้ว คราวหน้าตำแหน่ง "ประธาน" กป.อพช.อีสาน คงจะวนรอบถึงคิว "ราชสีห์อีสาน" เปี๊ยก แมวเหมียว อีกซักรอบกระมัง!!!.....อย่ากระนั้นเลย ให้ เปี๊ยก แมวเหมียว เป็นไม่ได้ ๆ ๆ เดี๋ยวถูกถล่มเละเทะ....ถ้าอย่างนั้น ก็เอาไอ้เอี้ยมต๋อม หละกัน มันไม่มีใครอีกแว้ว ( เอ้าช่วยกัน ฮา ).....
หรือเอาให้สุด ๆ ไปเลยวะ ใหน ๆ พวกเมริงก็สวามิภักดิ์มหาอำมาตย์ใหญ่อยู่แว้วว....ก็แก้ "กฎกติกามณเทียนบาน" ของพวกเมริงให้ "ตำแหน่งประธาน กป.อพช.อีสาน" สามารถสืบสายโลหิตได้ซะเลยก็ดี.....ลูกไอ้เอี้ยมยร์อช-เจ๊เตย จะได้เป็น "ทายาท" ตั้งแต่วัยเยาว์ไปเลย....
พูดแบบไม่เกรงใจกันนะ....กป.อพช.อีสาน ในวันนี้ก็แค่ "เสือกระดาษ" หรือว่าแค่แมวเชื่อง ๆ ที่เป็นหางเครื่องให้พวกพันธมารฯตามว่ามา ก็มันมีแต่หัวไม่มีหาง.....หรือ จริง ๆ แม้แต่หัวที่เห็น ๆ รายชื่อก็มีแค่นั้นแหละ ก็แมร่งเล่นใช้ "เงินล่อ" แล้ว "กะดอเสียบ" เมื่อหมดเงินชาวบ้านที่ใหนเค้าจะอยู่กะเมริง เพราะเมริงไม่เคยยกระดับความคิดให้ชาวบ้านเค้าเข้าใจในปัญหาโครงสร้าง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การกดขี่ขูดรีดของชนชั้นปกครองให้กับชาวบ้านเลย แต่ในทางกลับกันเสือกพร่ำบ่น พร่ำสอน แต่เรื่องเพ้อเจ้อ ไสยศาสตร์ที่ไม่สอดคล้องสถานการณ์ มุ่งสร้างลัทธิขุนนางใหม่ในหมู่พวกเมริงกันเอง.....ถุ๊ย!
...ไอ้พวก กป.อพช.อีสาน ทั้งหลายทั้งปวงที่กรูบรรยายมาเสียยืดยาวเนี่ยะ มันก็หาแดกกับแหล่งทุนหน้าโง่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พอช. สสส. สกว. ปปส. สปสช. สวรส. ฯ ล ฯ ... ถ้าหาแดกเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง หรือลูกเมียอย่างเดียว กรูไม่ว่าอะไรหรอก !!!....แต่เป็น "นักล่าโครงการ" ยังไม่พอ ยังเอาเงินภาษีประชาชนไปปู้ยี่ปู้ยำรับใช้ "เผด็จการ คมช." กับไปเลียกะโปกเหล่า "เสนามหาอำมาตย์ใหญ่" นี่ซิ.....แมนรับบ่ได้ๆๆ...มันบ่ใช่ ๆ ๆ ....
คอยดูนะ ไอ้พวกเหี้ยมเนี่ย เมื่อฟ้าสีทองเมื่อไหร่ พวกเมริงจดจำและตราไว้ หรือ จารไว้ในบัญชีหนังหมาด้วยว่า ประชาชนคนไทยจะไม่ละเว้นโทษตายพวกมันโดยเด็ดขาด !!!!!
มหาอำมาตย์และสมุนของมันจงฉิบหาย ประชาชนจงเจริญ......
*******
บทความชุดนี้ตอนที่ผ่านมา:NGOsที่รักภาคพิสดาร(4):จตุรเทพเหลืองอื๋อ