บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

ปชป.ขู่พรรคร่วมบีบแก้รธน.เจอ"ยุบสภา" "มาร์ค"รับปากทบทวน2ปมคาดสรุปได้ก่อนเปิดประชุมสภาฯ

ที่มา มติชน

"สุเทพ"เตือนพรรคร่วมอย่าตามใจตัวเองจี้แก้รธน."มาร์ค"เริ่มเสียงอ่อนยอมพิจารณา2ปม ย้ำไม่นิรโทษกรรม คาดชัดเจนก่อนเปิดประชุมสภาฯ "เทพไท"ขู่กลับหากสลับขั้วเจอยุบสภา "สมศักดิ์"รับ"เฉลิม"ต่อสายหา ยังไม่ชัวร์นัดคุย"เติ้ง"10ม.ค.หวังแก้รธน.


"สุเทพ"ฮึ่มพรรคร่วมอย่าตามใจตัว


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และผู้จัดการรัฐบาล ออกมาเตือนพรรคร่วมรัฐบาลอย่าทำตามอำเภอใจ ให้ฟังเสียงประชาชนเจ้าของประเทศ หลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ร่วมกันกดดันเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 190 และมาตรา 94 เกี่ยวกับเขตการเลือกตั้ง โดยให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มกราคม ว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่งที่จะทำตามอำเภอใจได้ ต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในฐานะเจ้าของประเทศที่มีความต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ มีระบอบประชาธิปไตยที่เป็นกฎเกณฑ์


"ปีที่แล้วที่รัฐบาลประคับประคองอยู่ได้ก็เพราะประชาชนคนไทย ต้องขอขอบคุณที่ยืนหยัดกันอย่างเหนียวแน่น เป็นพลังให้รัฐบาล เชื่อว่าปีนี้พลังของประชาชนคนไทยก็จะเข้มแข็งยิ่งขึ้น หากประชาชนแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของประเทศ จะทำให้ฝ่ายอื่นรวมถึงพรรคการเมืองต้องฟังเสียงประชาชนมากขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลรวมทั้ง ปชป.ต้องปรึกษาหารือกันเพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล จึงต้องมาถกกันแยกแยะให้ชัดเจน เพื่อให้ชาติบ้านเมืองอยู่ได้ แต่ละพรรคไม่มีสิทธิที่จะคิดเห็นเฉพาะเรื่องของตัวเอง ต้องมุ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติเป็นส่วนรวม" นายสุเทพกล่าว


ชี้อย่าตื่นเต้น"เฉลิม"พบ"เติ้ง"


เมื่อถามถึงกระแสข่าวการหารือแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.เพื่อไทย (พท.) นัดพบกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้า ชทพ. ในวันที่ 10 มกราคมนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ทางการเมืองใครจะพูดคุยปรึกษาใครก็ได้ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะไปหาแล้วนายบรรหารจะตกลงร้อยเปอร์เซ็นต์ นายบรรหารเคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ย่อมมองการเมืองออก จึงยังไม่ต้องไปตื่นเต้นเรื่องการนัดพบกันครั้งนี้


ส่วนกรณีนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้า ภท. ระบุอาจเปลี่ยนขั้วร่วมแก้รัฐธรรมนูญกับ พท.นั้น นายสุเทพบอกว่า ไม่ได้มองในแง่ร้ายหรือเป็นการข่มขู่ ทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลดิ้นรนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอยากให้ระบบการเลือกตั้งเป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียว "ผมเข้าใจดี แต่ก็อยู่ที่ ปชป. หากสามารถมีมติหรือมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันนี้ได้ การแก้ไขในรูปแบบหรือแนวทางนี้ก็เป็นไปได้อาจมีความสำเร็จ พรรคร่วมรัฐบาลก็จะได้ไม่ต้องไปดิ้นรนหาวิถีทางอื่น แต่ถ้าทำแบบนี้ไม่ได้เขาก็ต้องไปหาแนวร่วมอย่างอื่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง"


ปชป.ขู่พลิกขั้วเจอยุบสภา


ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหน้า ปชป. กล่าวว่า จุดยืนของปชป.ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะให้ความร่วมมือกับข้อเสนอของคณะกรรมการ 3 ฝ่าย แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลหยิบ 2 ประเด็นจาก 6 ประเด็น ปชป.ก็เห็นว่าน่าจะยืนอยู่ในจุดยืนเดิมของพรรค ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงจากความเห็นของ ส.ส. คือควรจะให้มีส่วนร่วมและถามความเห็นจากประชาชน จึงไม่เข้าใจว่าการที่จะหยิบแค่ 2 ประเด็นขึ้นมาแก้ไข ทำไมไม่ใช้กรอบแนวความคิดของคณะกรรมการ 3 ฝ่าย มาผลักดัน เพราะเชื่อว่าหากมีการผลักดันจาก 6 ประเด็น นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมทุกพรรคแล้ว ในส่วนของ ส.ว.ก็น่าจะให้การสนับสนุนด้วย


"การที่หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์เรื่องการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง คิดว่าเป็นสีสันทางการเมืองมากกว่า ถ้าหากว่าการเปลี่ยนขั้วเกิดขึ้นจริง ผมคิดว่าปัญหาทางการเมืองจะเกิดขึ้นตามมาค่อนข้างมาก และเชื่อว่าการเมืองจะถึงทางตัน หากถึงวันนั้นท่าทีของนายกฯ น่าจะประกาศได้ชัดเจนว่า รัฐบาลก็พร้อมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน การที่นายกฯออกมาประกาศว่าจะเข้าร่วมการแก้กติกาและเงื่อนไข 3 ข้อ น่าจะใช้เวลาแค่ 7-8 เดือนเท่านั้น ผมคิดว่าน่าจะรอคอยวันเวลาที่ประกาศไว้ และเชื่อว่าทุกพรรคยังไม่พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง" นายเทพไทกล่าว


"มาร์ค"เสียงอ่อนทบทวนดู2ปม


ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงพรรคร่วมรัฐบาลกดดัน ปชป.ให้เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่ายังไม่ได้คุยกันเป็นทางการ สอบถาม ปชป.แล้วเห็นว่าใน 2 ประเด็นนี้ ไม่น่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งในวงกว้างหรือเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งของสังคม ฉะนั้น พรรคการเมืองก็น่าจะมีอิสระในการเสนอแก้ไขโดยไม่กระทบกระเทือนในเรื่องของรัฐบาล เพียงแต่ตอนนี้พรรคร่วมต้องการคะแนนเสียงสนับสนุนจาก ปชป. ซึ่งในประเด็นที่ ปชป.เคยบอกว่าไม่เห็นด้วยก็คงต้องมาพิจารณาดู


"ปชป.คงได้ข้อสรุปก่อนเปิดสมัยประชุมสภาแน่นอน กรณีนายสุเทพนัดแกนนำพรรคร่วมหารือในวันที่ 21 มกราคมนั้น คงจะอยากให้ได้ข้อยุติก่อนเปิดสมัยประชุม ซึ่งพรรคต้องมีคำตอบที่ชัดเจนเรื่องนี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว


ปัดผิดข้อสัญญาพรรคร่วมรบ.


ส่วนที่มองว่าหากตามใจพรรคร่วมในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ต่อไปขอเรื่องอื่นขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ย้อนว่า "ก็ไม่รู้ใครตามใจใคร เดิมทีทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงมาตลอด เดิมรัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ แต่ตอนนี้รัฐบาลบอกว่าจะไม่เป็นเจ้าภาพ ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่รู้ใครตามใจใคร ผมไม่ทราบ เห็นมีแต่ขัดใจกันอยู่ไม่ใช่หรือ ตกลงตามใจหรือขัดใจ


เมื่อถามว่า นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาทวงสัญญาว่าเป็นเงื่อนไขที่เข้าร่วมเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "มาตรา 190 ก็เห็นด้วยแล้ว ผมเดินหน้ามาตลอดเพียงแต่ว่าตอนสัญญากัน ก็บอกกันว่าการแก้ไขต้องไม่ไปแก้ไขในประเด็นที่มันมีความละเอียดอ่อน ความขัดแย้ง รวมถึงการไม่มีการนิรโทษกรรม ดังนั้น ถ้าจะทวงสัญญากัน ต้องบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่มีลักษณะการนิรโทษกรรม ต้องไม่มีใครเข้าไปร่วมแก้ไข ผมก็รักษาสัญญา"


ย้อนคืนสัญญาไม่มีนิรโทษฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ถ้าพรรคร่วมไปจับมือ พท.นำรัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นมาใช้ จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แปลว่าเขาไม่รักษาสัญญา ที่เคยคุยกันตอนตั้งรัฐบาล ก็บอกว่าจะแก้ไขในประเด็นที่ทำให้เป็นความประชาธิปไตยมากขึ้น หลีกเลี่ยงประเด็นนำไปสู่ความขัดแย้ง พูดกันชัดว่าไม่มีความคิดที่จะไปทำเรื่องนิรโทษกรรม ดังนั้น อันนี้คือข้อตกลง ก็เดินตามนี้ ตอนนี้พรรคร่วมยืนยันอยู่ว่าไม่เอาเรื่องนิรโทษกรรม แต่เขาทราบหรือเปล่าว่า พท.อาจจะเสนอที่เข้าลักษณะนิรโทษกรรม


เมื่อถามว่า พท.ยืนยันจะใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ที่เสนอค้างไว้ในสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็เป็นร่างที่มีเรื่องนิรโทษกรรมด้วย ปชป.คงยอมไม่ได้ ตกลงกันแล้วว่าไม่ทำ เมื่อถามว่า ปชป.กลัวถูกโดดเดี่ยวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ พรรคต้องรักษาจุดยืนและข้อตกลงที่ทำไว้ เราคุยกันชัดเจนว่าต้องการมาทำอะไรด้วยกัน และคิดว่าคงไม่เกิดขึ้น


ยังไม่ชัวร์"เฉลิม"คุย"เติ้ง"10ม.ค.


ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรค ชท. แกนนำ ชทพ. ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าได้โทรศัพท์นัดนายบรรหาร หาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ร.ต.อ.เฉลิมโทรศัพท์มาคุยกับตนเมื่อคืนวันที่ 3 มกราคม เล่าถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม เขต 1 ที่ผู้สมัคร พท.ชนะ และเล่าว่าส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นายบรรหารได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ในชั้นนี้ยังไม่ได้มีการนัดหมายวันเวลาที่ชัดเจน ฉะนั้น ที่บอกว่านัดพูดคุยกันวันที่ 10 มกราคมนั้น ยังไม่ใช่


เมื่อถามว่า การหารือจะเป็นการพูดคุยเรื่องที่นายบรรหารกล่าวในระหว่างการหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และได้ยื่นคำขาดให้กับนายสุเทพว่า หาก ปชป.ยังนิ่งเฉยเรื่องนี้ ชทพ.อาจจะไปร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและโหวตให้ พท.หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า นายบรรหารไม่ได้พูดว่าจะโหวตให้ เพียงแต่บอกว่าจะร่วมลงชื่อเสนอแก้ไข ทุกคนที่ประชุมเห็นด้วยในหลักการว่า ขณะนี้อายุสภา 2 ปีเศษแล้ว เท่ากับว่านับวันยิ่งจะเดินถอยหลังเข้าสู่วันเลือกตั้งใหม่ แต่กติกาการเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มาจากแก่นแท้ความเป็นประชาธิปไตยเพราะมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร จึงต้องมีการแก้ไข


ชทพ.ย้ำพรรคร่วมหนุนแก้2ปม


"จากข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ 6 ข้อนั้น พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าควรมีการพิจารณาแก้ไข 2 ประเด็นที่ตกผลึกทางความคิดแล้วคือ มาตรา 190 และเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียวจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง หรือฝืนความรู้สึกของประชาชนในสังคม ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่อาจถูกมองว่าเป็นการแก้ไขเพื่อนักการเมือง ทั้งมาตรา 265, 266 ที่ให้ ส.ส.ไปดำรงตำแหน่งเป็นเลขาฯหรือที่ปรึกษารัฐมนตรีได้ หรือมาตรา 237 ว่าด้วยเรื่องการยุบพรรค ก็อย่าเพิ่งไปแตะ เพราะตอบคำถามประชาชนได้ลำบาก และจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ในอนาคตเกิดวิกฤตการเมืองแล้วนายกฯยุบสภา หากมีการแก้ไขกติกาเหล่านี้แล้วก็ยังพอมีทางออกของวิกฤต" นายสมศักดิ์กล่าว


นายสมศักดิ์กล่าวว่า ในการหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกี่ยวข้องจับมือกันตั้งรัฐบาล อยากให้มีการแยกแยะ ขอเรียกร้องว่าอย่าเอา 2 เรื่องนี้มาเกี่ยวข้องกัน คิดว่าเรื่องนี้อยู่ที่มุมมองว่าจะมองให้เป็นการเมือง มองว่าเป็นเรื่องของการสลับขั้วหรือไม่อยู่ร่วมกันแล้วก็มองได้ แต่อยากให้มองว่าเป็นการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่จะไปร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า


พผ.จับมือส.ว.ยื่นญัตติแก้รธน.


ที่รัฐสภา นายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวว่า ขณะนี้รอนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นแกนนำรวบรวมรายชื่อส.ว.ประสานมาก่อนเนื่องจาก มี ส.ว.ที่พร้อมจะร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยจะเสนอเป็นญัตติเป็นร่างเดียว ใน 6 ประเด็นตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯมีข้อสรุปก่อนหน้านี้ ถือเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติในสภา อย่าไปมองว่านักการเมืองแก้ไขเพื่อตนเอง แต่ทำเพื่อให้นักการเมืองปฏิบัติงานให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลหากมีความจริงใจก็ต้องแก้ไขทั้ง 6 ประเด็น ไม่ใช่เสนอเฉพาะข้อที่ตัวเองมีประโยชน์จะถูกครหาได้


พท.ซัดแก้รธน.แค่ต่อรองกัน


ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. แถลงผลการประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคว่า พท.รำคาญและเบื่ออย่างยิ่งที่พยายามมาตื๊อให้ไปร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอประกาศครั้งสุดท้ายว่า 1.พรรคประเมินสถานการณ์แล้วว่าการที่มีผู้นำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพูดอีกช่วงนี้ ต้องการสร้างเรื่องหลอกประชาชน เนื่องจากภายในพรรคร่วมรัฐบาลกำลังมีปัญหา ข้อขัดแย้งและพยายามต่อรองอะไรบางอย่างอยู่ จึงนำเรื่องนี้มาพูด เพื่อต่อรองผลประโยชน์กันภายใน


"2.นอกเหนือจากการต่อรองผลประโยชน์ แล้วยังเป็นความพยายามกลบเกลื่อนเบี่ยงเบนความสนใจปัญหาคอร์รัปชั่นในรัฐบาลของประชาชน 3.ขอเตือนปชป.อีกครั้ง อย่าพยายามดึงเกมเพื่อให้สามารถอยู่ในตำแหน่งต่อไป 4.พท.ขอชวนให้นายอภิสิทธิ์มาร่วมแก้ไขด้วยการนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้ทั้งฉบับ 5.ย้ำว่า พท.จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือร่วมสังฆกรรมใดๆ กับรัฐบาลไม่ว่าจะแก้ไข 6 ประเด็นหรือ 2 ประเด็น" นายปลอดประสพกล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะนัดหารือนายบรรหารว่า ไม่ขัด เพราะเป็นจุดยืนของพรรค หาก ชทพ.จะมาร่วมสนับสนุนการแก้ไขด้วยการนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้ทั้งฉบับ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker