ภาพที่ปรากฏอยู่บนจอการเมืองเวลานี้ก็คือ ความขัดแย้ง ความแตกแยก และความตกต่ำของสถาบันการเมือง รัฐธรรมนูญปี 40 ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งจนกระทั่งสามารถที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมั่นคง สามารถที่จะบริหารงานไปได้จนครบวาระตามเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องมาเลือกตั้งกันบ่อยๆ เปลี่ยนรัฐบาลกันบ่อยๆ
แต่เหล่ามือไม่พาย เอาเท้าราน้ำก็จะหาข้ออ้างว่า เป็นเผด็จการรัฐสภา โค่นล้มในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ก็ดึงเอากองทัพเข้ามาล้มรัฐบาล สร้างเงื่อนไขกลไกกับดักของวงจรอุบาทว์ไว้มากมาย โดยหมกเม็ดเอาไว้ใน รัฐธรรมนูญปี 50 เพื่อสานต่อภารกิจลับบันไดสี่ขั้นให้เสร็จสมบูรณ์
นำไปสู่ความล่มสลายของการเมืองไทย
การเมืองต้องย้อนรอยถอยหลังไป 10 ปี 20 ปีก็เป็นอีกเรื่อง แต่วิกฤติการเมืองจะลากถูลู่ถูกังกันไปอย่างนี้ ประเทศก็ไม่ต่างอะไรจากสนามรบ เป็นสงครามไม่มีที่สิ้นสุด
มาตรฐานของรัฐบาลที่ใช้บังคับกับสังคมก็เช่นกัน ยิ่งกระทำให้เห็นความแตกต่างมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น ยกตัวอย่าง เรื่องของหวยออนไลน์ เป็นต้น ถ้าจะพูดกันในแง่ข้อกฎหมาย การทำสัญญาสัมปทานกับรัฐแล้วไม่มีอะไรบกพร่อง บริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหาย กับการยื้อเวลาของรัฐบาลเอง
อย่างไม่มีเหตุผล
ปรากฏว่า คนที่ออกมาขวางเรื่องนี้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการคัดค้านอย่างมีเงื่อนงำ แสดงจุดมุ่งหมายที่จะล้มกระดานหวยออนไลน์ชัดเจน ต้องอธิบายว่างานนี้มีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ด้วยมูลค่าของการเล่นหวยใต้ดินปีละกว่า 3 แสนล้าน สร้างรายได้ให้กับเจ้ามือหวยใต้ดินไม่ต่ำกว่าปีละ 3 หมื่นล้าน
ในเมื่อหวยอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เลิกไม่ได้ ดังนั้น ถ้ารัฐบาลตัดสินใจให้เกิด หวยบนดิน หรือหวยออนไลน์ขึ้นมา คนที่จะได้ประโยชน์ ชัดเจนก็คือ กองสลาก คือรัฐบาล ที่จะนำรายได้เหล่านี้มาเข้ารัฐจัดสรรใช้ประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป
ตรงกันข้าม ถ้ารัฐสั่งล้มหวยบนดิน คนที่ได้ประโยชน์ก็คือ เจ้ามือหวยใต้ดิน ที่สามารถแสวงหาผลประโยชน์นอกกฎหมายต่อไปได้อย่างสบายใจ และนำเศษเงินจากรายได้เหล่านี้มาสร้างอิทธิพลที่ผิดกฎหมายเช่นกัน เพราะฉะนั้นข้ออ้างของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ว่า ไม่นำสิ่งที่ผิดกฎหมายมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงฟังไม่ขึ้น เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ก็คือรัฐบาลปล่อยให้สิ่งที่ผิดกฎหมายดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการปกป้องจากฝ่ายรัฐโดยทางอ้อมด้วยซ้ำไป
ทีเรื่องของ รถและเรือดับเพลิง กทม. รู้ทั้งรู้ว่ามีการทุจริตคอรัปชัน รัฐก็ยังให้ดำเนินการต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะเป็นความผิดสำเร็จไปแล้วก็ตาม
ทีเรื่องมาบตาพุดต้องสูญเสียประโยชน์เป็นแสนล้าน รัฐกลับไม่เข้าไปให้ความคุ้มครองช่วยเหลือ จุดอ่อนรัฐบาล 3 ข้อ ไม่กล้าแตะรัฐธรรมนูญ ไม่กล้ายุ่งกับหวยใต้ดิน ไม่กล้าดำเนินคดีพันธมิตรฯ ยังแก้ไม่ตก.
หมัดเหล็ก