บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

วัลลภพ่ายกระแส ขอลาออก พ้นบอร์ดบินไทย

ที่มา ไทยรัฐ

"โสภณ" เผย "วัลลภ พุกกะณะสุต" ซึ่งถูกตั้งกรรมการสอบกรณีถูกร้องเรียนว่าใช้อภิสิทธิ์ขนสัมภาระน้ำหนักเกินจากสนามบินนาริตะ ญี่ปุ่นมาไทย ประกาศลาออกจากบอร์ดการบินไทย และทุกตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งแล้ว..

เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 5 ม.ค. นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจาก นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคระกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานบอร์ด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า นายวัลลภ พุกกะณะสุต ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งบอร์ดการบินไทย และตำแหน่งประธานบอร์ด ฝ่ายบริหาร การบินไทย(EMM) รวมถึงทุกตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งแล้ว

สำหรับสาเหตุที่นายวัลลภ ยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากเพื่อแสดงสปิริต หลังถูกตั้งกรรมการสอบสวนกรณีถูกร้องรียนว่าขนสัมภาระน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม จากสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มายังสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้การบินไทยสูญเสียรายได้จำนวนมาก

ต่อมา ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 16.00 น.นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดแถลงข่าวถึงการลาออกของ นายวัลลภ ว่า ตนได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งของนายวัลลภ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2553 และได้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นไป โดยนายวัลลภ ได้ขอลาออกจากทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการบินไทย เช่น กรรมการในบริษัท การบินไทย และ สายการบินนกแอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร รวมถึงคณะกรรมการสรรหา เพื่อแสดงสปิริต และ รักษาภาพลักษณ์ขององค์กร โดยนายวัลลภได้ยืนยันว่า น้ำหนักกระเป๋ากว่า 398 กก.นั้น ไม่ได้เป็นของตนแต่ผู้เดียว แต่เป็นของบุคคลอื่นด้วยรวมทั้งสิ้น 3 คน และไม่ได้มีเจตนาเอาเปรียบบริษัทหรือทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองในเชิงพาณิชย์ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายวัลลภ ได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่การสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง เป็นประธาน กรณีที่นายวัลลภ ได้ขนสัมภาระน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดยังต้องดำเนินการต่อไป เพื่อหาคนผิดมาลงโทษ โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง สรุปผลการสอบสวนในวันที่ 11 ม.ค. 2553 และจะรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อบอร์ด การบินไทย ในวันที่ 15 ม.ค. 53 นี้ ซี่งหากผลการสอบสวนพบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำความผิด จะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ในรูปแบบของเงินชดเชย

"ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการเข้มงวดในการอัพเกรดการเพิ่มน้ำหนักของวีไอพีต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้บริหาร ผู้มีอุปการคุณคุณูปการ รวมถึงนักการเมืองนั้น การบินไทยหละหลวมมาก และ ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 2552 เป็นต้นมา ทางนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ ดีดี ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในขั้นตอนดังกล่าว โดยการอนุญาตในการอัพเกรดพิกัดพิเศษจะต้องรายงานต่อดีดีโดยตรง" นายอำพน กล่าว

นายอำพน กล่าวว่า ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของนายวัลลภนั้น หากนายวัลลภไม่ขาดคุณสมบัติอย่างอื่นยังได้สิทธิประโยชน์ในฐานะผู้บริหารเกษียณอายุ ทั้งนี้ การลาออกของนายวัลลภ จะเป็นกรณีตัวอย่างเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานการบินไทยทุกคน และถือว่าเป็นตัวอย่างและการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงของนายวัลลภนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการบินไทย ในการปรับปรุงแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีก

นายอำพน กล่าวอีกว่า นายวัลลภ ได้แสดงความเสียใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากรักองค์กรแห่งนี้เพราะมีบิดาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทการบินไทย และนายวัลลภเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทที่เกษียณอายุและกลับมาช่วยงานบริษัทหลังจากเกษียณอายุ ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางการเมือง โดยไม่มีใครสั่งให้อุ้มนายวัลลภ และ สั่งให้นายวัลลภลาออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker