เนื่องในโอกาสปีใหม่ 2553 สมาคมนักข่าวฯ ได้ออกแถลงการณ์ ถึงจุดยืนและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในรอบปีที่ผ่านมาบนถนนความวุ่นวายและรายล้อมไปด้วยวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจจนกลายเป็นวิกฤติสังคมและวิกฤติแห่งความขัดแย้งของคนในชาติ
พร้อมกันนี้ได้มีข้อเรียกร้องออกมาถึงฝ่ายต่างๆในสังคม ดังนี้ รัฐบาล จะต้องใช้สื่อของรัฐในการให้ข้อมูล ข่าวสารที่ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง รัฐบาลไม่กระทำการใดๆที่เป็นการแทรกแซงหรือปิดกั้นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
สื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ที่เป็นสื่อหลัก ขอให้ยึดมั่นการประกอบหน้าที่ตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และต้องคำนึงถึงความถูกต้องให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน
สื่อเพื่อการเมือง ของกลุ่มการเมืองต่างๆ ต้องไม่นำเสนอข่าวที่บิดเบือน ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้ง จนนำไปสู่ความรุนแรง
ประชาชน สมควรตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับอย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจของตัวเอง ต้องไม่หลงเชื่อคำโฆษณา ชวนเชื่อง่ายๆ
ต้องยอมรับว่าสื่อมวลชนในประเทศที่กำลังพัฒนามีอิทธิพลสูงมาก เพราะสื่อจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ในการทำสงครามชิงมวลชน ได้เป็นอย่างดี แม้แต่การเปลี่ยนประเทศ การปฏิวัติรัฐประหาร หรือแม้แต่การเลือกตั้งในแนวทางของประชาธิปไตย
สื่อจะเข้ามามีบทบาททุกครั้ง
แต่ไม่ได้หมายความว่า สื่อจะเป็นฐานันดรสี่ ที่จะชี้ว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรดี อะไรชั่วได้ เพราะสื่อไม่ใช่ศาลยุติธรรม สื่อมวนชลก็เป็นคนมีกิเลส เพราะฉะนั้นจะวัดคุณภาพสื่อก็ต้องดูจากสังคมนั้นๆด้วย
ถ้าสื่อยังอยู่ในสังคมอุปถัมภ์ ความเป็นมาตรฐานก็ยังมีน้อยมาก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและคุณธรรมของแต่ละคนมากกว่า ธาตุแท้ของสื่อนั้นๆเป็นอย่างไร กรอบจริยธรรมที่ใช้บังคับสื่อก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ เนื่องจากสื่อเมื่อทำผิดจริยธรรมก็ไม่ผิดกฎหมายยังลอยหน้าในสังคม
เพราะฉะนั้น มาตรฐานจริยธรรมในวิชาชีพสื่อบ้านเรา ก็ยังไม่มีมาตรฐานเช่นกัน ช่องว่างตรงนี้ทำให้สื่อพวกหนึ่งใช้อาชีพสื่อเป็นบันไดในการแสวงหาผลประโยชน์ในลักษณะสื่อธุรกิจและถ้าจะพูดไปแล้วสื่อทุกประเภทก็ยังอยู่ใต้การควบคุมของรัฐทั้งหมดจะทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น
มีเจ้าของสื่อ มีองค์กรสื่อ มีมาเฟียสื่อที่แอบแฝงและ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยผลประโยชน์ตอบแทน โดยไม่มีเศษเสี้ยวของจิตสำนึกตั้งมากมาย
ยิ่งในยามวิกฤติชาติ สื่อถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างหนัก สิ่งที่เห็นและเป็นไป ระหว่างหน้าฉากกับหลังฉากต่างกันเยอะ สื่อก็ถูกแบ่งแยกไปตามวิกฤติการเมืองด้วยอารมณ์ความรู้สึกบนผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน.
หมัดเหล็ก