บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

จุดหักเห

ที่มา ไทยรัฐ

ทุกอย่างกำลังเดินสู่จุดหักเหทางการเมืองที่มีประเทศเป็นเดิมพัน จะก้าวผ่านไปได้หรือไม่ยังคาดเดาไม่ได้ยิ่งใกล้วันชี้ขาดคดี "ยึดทรัพย์"ยิ่งเห็นร่องรอยชัดเจนขึ้นในรูปแบบต่างๆ

ข่าว "เขย่าขวด" สุดสัปดาห์นี้ สถานการณ์บ้านเมืองดูเหมือนจะไม่ปกติมากขึ้นเป็นลำดับ เดี๋ยวโน่นเดี๋ยวนี่จนวุ่นวายกันไปหมด

แต่ที่ดินเขายายเที่ยงคงจะปิดเกมไปแล้วเมื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรียอมรื้อถอน ขนของออกจากบ้านแล้ว

หลังจากกรมป่าไม้ประกาศให้รื้อถอนภายใน 30 วัน

เป็นอุทาหรณ์สำหรับบุคคลที่ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่าไปยุ่งกับลาภที่ไม่ควรได้ มัน จะเป็นภัยมาถึงตัวเสียชื่อเสียงโดยใช่เหตุ

และกลายเป็นปมการเมืองให้ร้อนแรงขึ้นมา

นี่ก็เรื่องที่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวม ของเศรษฐกิจพอสมควร เมื่อผู้บริหารระดับบิ๊ก 9 ธนาคารไปสมคบกับบริษัทค้าข้าวรายใหญ่สร้างหลักฐานเท็จทุจริตปล่อยกู้ 3.3 หมื่นล้าน

บริษัทข้าวรายนี้เจ๊งพังพาบไปแล้ว เม็ดเงินก้อนใหญ่จึงต้องสูญไปโดยปริยาย

ดีที่ดีเอสไอไปตรวจสอบพบและต้องดำเนินคดีกับบรรดาบิ๊กแบงก์ทั้ง 9 แห่ง เรื่องแบบนี้มันต้องจัดการให้เด็ดขาด

เพราะมันมีผลต่อความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและนานาชาติ รวมถึงระบบเศรษฐกิจ ที่กำลังฟื้นตัวแต่มาสมคบกันทุจริต

ต้องเอาเข้าคุกให้เข็ดหลาบ

มิฉะนั้น แบงก์ที่สูญเงินไปจะเสียเครดิต และทำให้ผู้ฝากเงินขาดความไม่

เชื่อมั่นอาจเกิดความวุ่นวายแห่กันถอนเงินออก แล้วมันจะยุ่งไม่รู้จบ

เหนืออื่นใด ยิ่งใกล้วันพิพากษาคดี "ยึดทรัพย์" สถานการณ์การเมืองเริ่มมีเค้าลาง ที่ส่อว่าจะเกิดเหตุใหญ่อย่างที่หวั่นใจกัน

มีการลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในกองบัญชาการกองทัพบก

แม้จะไม่มีผู้ใดเสียชีวิตแต่มันเป็นการกระทำเพื่อหวังผลสู่บุคคลเชิงสัญลักษณ์ในฐานะผู้นำเหล่าทัพ ซึ่งมีศักยภาพสูงสุดทางอำนาจ

ดิสเครดิตและเย้ยกันซึ่งๆหน้า

หลังจากปิดข่าวมาหลายวันแต่เรื่องอย่างนี้มันปิดไม่มิดหรอก มีแต่จะต้องเปิดเผยความจริงและเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

มันต้องจัดการให้เด็ดขาด ชัดเจน เพื่อรักษากองทัพและความมั่นคงให้ได้

อย่างไรก็ดี จากการที่ตำรวจได้บุกค้นบ้าน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกสั่งพักราชการ เนื่องจากขาดราชการไปต่างประเทศและท้าทายผู้ บังคับบัญชา

ปรากฏว่าพบอาวุธสงครามร้ายแรงเพียบ

นอกจากนั้น เมื่อขยายผลไปถึงบุคคลผู้ใกล้ชิดเสธ.แดง หลายคนก็ไม่แตกต่างกัน จึงมีการจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีสาวลึกลงไป พบว่ามีสมญามีประวัติที่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น

ปฏิบัติการครั้งนี้เท่ากับ "ตีรังแตน" ไม่มีผิด

และยังสะท้อนภาพให้เห็นชัดว่าอาวุธสงครามและการก่อเหตุรุนแรงต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ล้วนมาจากขบวนการ "คนมีสี" ไม่กี่คนเป็นส่วนใหญ่ มันจึงต้องกวาดล้างกันให้สิ้นซาก

เหนืออื่นใด จากนี้ไปรัฐบาลต้องเตรียม รับมือให้ดี เพราะขบวนการนี้คงจะไม่หยุด แต่จะก่อเหตุแบบไหน อย่างไร การข่าวจะต้องเฉียบคม

แม้กระทั่งนายกฯเองก็อย่าประมาท เป็นอันขาด

ขณะเดียวกัน นายกฯก็จะต้องแสดงความเป็นผู้นำให้ครบเครื่อง เพื่อจะได้ก้าวผ่านจากเหตุทั้งหลายที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประเทศนี้ยืนอยู่ได้ด้วยความสงบเรียบร้อย

แม้ว่าภายในจะเกิดปัญหาขัดแย้งในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลเปิดเกมกดดันอย่างหนัก

อีกทั้งในพรรคประชาธิปัตย์ก็แตกความเห็นกัน

และจะมีการประชุมเพื่อหามติว่าจะเอายังไงกันแน่ จะหนุน ฟรีโหวต หรือไม่เอาด้วย ต่างๆเหล่านี้ล้วนเกี่ยวพันกับเสถียรภาพรัฐบาลทั้งสิ้น

ที่สำคัญ เสถียรภาพรัฐบาลย่อมสัมพันธ์ ความมั่นคงของประเทศอย่างแยกไม่ออก คิดหรือทำอะไรจึงต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย

ต้องรู้ว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลำดับความสำคัญของปัญหา อะไรหลักอะไรรอง อะไรควรประนีประนอม อะไรควรเฉียบขาด

มิฉะนั้นได้เอวัง...แน่!!!

"ลิขิต จงสกุล"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker