ปีขาล เสือดุมาเลย
และก็เป็นนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข ที่โดนสังเวยกันตั้งแต่สิ้นปีเก่า จำใจต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบต่อกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ฟันธง มีความบกพร่อง ส่อไม่โปร่งใส
ยังไงก็ดิ้นหนีไม่หลุด
ในมุมที่ต้นสังกัดพยายามอาศัยเหลี่ยมเซียนการเมือง ตีปี๊บปรบมือให้กับการโชว์สปิริตของคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่เหนือกว่าคนการเมืองค่ายอื่น
แต่อีกอารมณ์หนึ่ง มันก็ยากจะชิ่งออกตัว
กับเหยื่อที่ต้องเซ่นกฎเหล็กของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เริ่มจากคิวของนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่ต้องเด้งจากตำแหน่งรัฐมนตรีแบบบอบช้ำ เพราะพิษปลากระป๋องเน่า
ตกเก้าอี้ ทั้งๆที่นั่งยังไม่ทันก้นอุ่น
มาถึงคิวของนายวิทยา ที่เจอประจานความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข
ต้องลุกหนีเก้าอี้ไปแบบไฟลนก้น
ยังไม่นับรายการของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่โดนไล่ต้อนสาวไส้ ปมงาบหัวคิวโครงการชุมชนพอเพียง
ตีกรรเชียงหนีไม่ออก
แต่บังเอิญจังหวะเหมาะเคราะห์ดีที่เจ้าตัวยังมีช่องเบี่ยงตัวหลบ นายกอร์ปศักดิ์ยอมลดชั้นไปนั่งเป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทนเก้าอี้ว่างเพราะนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เจ้าของโควตาเก่าที่ลาออกไป
สรุปว่า ไม่ถึงหนึ่งรอบปี รัฐมนตรีพะยี่ห้อประชาธิปัตย์ต้องสังเวยปมฉาวๆ นัวเนียๆกับกระแสข่าวการทุจริต
ติด "กับดักโกง" ไปแล้ว 3 หน่อ
เกินพอให้ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ใช้เป็น "หัวเชื้อ" จุดชนวน โหมโรงรายการเปิดวิกถล่มในคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจ
บลัฟ "คุณชายสะอาด" ที่ชื่อ "อภิสิทธิ์"
และนั่นจะพาลไปถึง "ลูกติดพัน" ฉวยจังหวะซ้ำเข้าใส่แกนนำอย่างประชาธิปัตย์ที่กำลังเซจากคิวสะดุด "กับดักโกง"
อย่างที่จับทางกันได้ โดยจังหวะแท็กทีม ใส่เกียร์ห้าเดินหน้ารุก
เปิดฉากด้วยเสียงของจอมเก๋ายี่ห้อ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่
พรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาแฉดังๆออกอากาศ มีอดีตนายกรัฐมนตรีล็อบบี้ไม่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ตั้งใจ "เขี่ยฟืน" ดักคอสองมาตรฐาน ตามอาการของคนที่สุดเจ็บปวดจากการโดนสั่งยุบพรรคแบบม้วนเดียวจบ โดย กกต.ตัดสินใจเร็วแบบไม่มีอาการยึกๆยักๆ
"บิ๊กเติ้ง" ตามจิกคิวยุบพรรคประชาธิปัตย์แบบไม่ปล่อย
และในอารมณ์ต่อเนื่องจาก "ลูกหมั่นไส้" พวกเส้นใหญ่ โดยการส่งสัญญาณคลื่นความถี่สูง นายบรรหารพูดชัด พร้อมจะให้ ส.ส.ลูกข่ายพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมวงแก้ไขรัฐธรรมนูญกับฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย หากพรรคประชาธิปัตย์ยังเล่นมุกเขี้ยวใส่เพื่อน
เบี้ยวสัญญาลูกผู้ชาย ยื้อคิวแก้รัฐธรรมนูญ
ในท่วงทำนองที่สอดคล้องไปทางเดียวกับ "ครูใหญ่" อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ผู้มีบารมีนอกสภาของพรรคภูมิใจไทย ที่แม้จะประกาศ "ไม่พลิกขั้ว"
แต่ในจังหวะไล่บี้ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นอะไรที่จับไต๋ได้
เป็นนัยๆ จากการที่นายเนวินพูดเต็มปากเต็มคำ รัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด
และโดยจุดยืนก็ไม่ได้รับรัฐธรรมนูญฉบับ "หน้าแหลมฟันดำ" มาตั้งแต่ต้น
โดยสัญญาณที่จับทางได้ "เนวิน" แตะมือกับ "บรรหาร" ไล่บี้แกนนำอย่างประชาธิปัตย์ให้เดินธงตามข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นต้องบี้ให้ได้ในการกลับไปเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
ตามอารมณ์ที่แบะท่าขู่เป็นนัย หากไม่ได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ก็พร้อมหันกลับไปแท็กทีมกับพรรคเพื่อไทย ในการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมาใช้
และให้ชัดไปกว่านั้น กับบทเฮี้ยวของ "ปู่จิ้น" นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับมุกกับนายบรรหาร พูดกันชัดๆกับคำถามของนักข่าวที่ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่แก้รัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยก็อาจย้ายขั้วไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
เป็นไปได้ ถ้ามีความจำเป็น
เปิดไพ่ แบหน้าตักเล่นกันแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
