คงอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯว่าจะให้นายมานิต นพอมรบดี พ้นจากตำแหน่ง รมช.สาธารณสุขหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะพยายามดิ้นทุกวิถีทางเพื่อนั่งเก้าอี้ต่อไป แม้กระทั่งการยื่นใบลาพักงาน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ
จะแสดงภาวะผู้นำหรือกฎเหล็ก 9 ข้อมาใช้ได้หรือไม่ นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำพารัฐบาลอยู่รอดต่อไปได้มากน้อยแค่ไหน
หากสั่งรัฐมนตรีไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว
อย่างไรก็ดี ในประชาธิปัตย์เองซึ่งทำท่าว่าจะยุ่งเพราะการตั้งรัฐมนตรีคนใหม่แทนนายวิทยา แก้วภราดัย ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ จึงต้องจัดการโยกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากรัฐมนตรีศึกษาฯไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีสาธารณสุขและให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ เป็นรัฐมนตรีศึกษาฯแทน
เรียกว่าต้องรวบรัดตัดความ หากขืนปล่อยให้ล่าช้าออกไปจะกลายเป็นศึกนอก-ศึกใน ที่ยากต่อการแก้ไขและจะบานปลายออกไปได้
อย่างไรก็ตาม การที่ต้องโยกนายจุรินทร์ไปอยู่กระทรวงสาธารณสุขนั้นน่าจะเป็นเพราะว่ากระทรวงนี้มีปัญหา ทั้งเรื่องทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง หมอกับหมอกำลังล่อกันนัวเนีย
ขืนตั้งรัฐมนตรีมือใหม่หัดขับเข้าไปบริหารยิ่งป่วนกันไปใหญ่
กระทรวงสาธารณสุขนั้นไม่ใช่ธรรมดาแน่ เพราะบุคลากรล้วนมีความรู้ความสามารถ กล้าได้กล้าเสีย กล้าแสดงออก นักการเมืองทะเล่อทะล่าเข้าไปล้วงไปควักต้องหงายหลังหรือติดคุกไปแล้วก็มี นั่นเพราะส่วนใหญ่ยังมีคนดี เสียสละเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
แต่ในส่วนดีก็ยังมี ส่วนเสียยังมีหมอส่วนหนึ่งที่ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา อยากใหญ่ อยากรวย บรรดามีเหล่านี้จะร่วมมือกับนักการเมือง ชงเรื่อง ชงผลประโยชน์ ชี้ช่องให้เกิดการล้วงลูกและเปิดทางไปสู่ขุมทรัพย์
โครงการไทยเข้มแข็งคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด แม้ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ก็มีการเตรียมงานดักรอล่วงหน้าเอาไว้แล้ว
แน่นอนว่านายจุรินทร์แม้จะไม่มีความโดดเด่นหรือโชว์ผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่เคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวงย่อมมีความ "เก๋า" และรู้เท่ารู้ทันข้าราชการพอสมควร การให้ไปอยู่ตรงนั้นน่าจะเอาอยู่
แต่สำหรับนายชินวรณ์ถือเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ แม้จะเป็น ส.ส.มาหลายสมัย ดังนั้น การบริหารงานในกระทรวงสำคัญจึงไม่ใช่ เรื่องง่าย
กระทรวงศึกษาธิการนั้นว่าที่จริงแล้วก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไม่ต่างกับกระทรวงสาธารณสุขเท่าใดนัก แม้บุคลากรจะมีหน้าที่โดยตรงที่เกี่ยวข้องกับเด็กในฐานะ "ครู" แต่ภายในก็ยังแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก
โครงการไทยเข้มแข็งก็ยังล่อแหลมอยู่หลายเรื่องที่ส่อไปในทางทุจริต แต่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน พยายามที่จะกลบเรื่องหรือถอนเรื่องออกมาเสียก่อน แม้กระทั่งรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีด้วยกันก็ยังไปคนละทิศละทางแทบจะไม่มองหน้ากันเสียด้วยซ้ำ
นี่คือสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
ดังนั้น คงจะไปคาดหวังอะไรมากไม่ได้ ทั้งเรื่องปัญหาสุขภาพและคุณภาพการศึกษาของไทย เพราะทั้งคนและนโยบายยากที่จะนำพาไปสู่สิ่งที่ดีกว่านี้
อย่าได้แปลกใจว่าทำไมเด็กไทยถึงด้อยคุณภาพ สุขภาพของคนไทยจึงยังไม่สามารถได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกันได้
"วันเด็ก" ปีนี้นายกฯ ได้ให้คำขวัญไว้ว่า "คิดสร้างสรรค์ ขยัน ใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม" ครับ...สวยหรูในสิ่งประดิษฐ์คิดค้นกันขึ้นมา แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคงไม่ได้เกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ
เพราะ "ผู้ใหญ่" มันยังเฮงซวยกันอยู่อย่างนี้.
"สายล่อฟ้า"