มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับนี้ หน้าปก เป็นรูป พิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอดคุณปู่ เรียก นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า ไอ้หลานชาย แต่ประเด็นสำคัญคือ คำเตือนของอดีตหัวหน้าพรรคถึง ไอ้หลานชาย เรื่องการใช้คนให้เป็น และการทำงานให้เป็น รีบอ่านโดยพลัน
"พิชัย รัตตกุล" ชื่อนี้หายไปจากสารบบการเมืองนานแล้ว เขาเป็นอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 2525 จนถึงปี 2534 วันนี้เขาอายุ 84 ปีแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงมาก "พิชัย" วางมือทางการเมืองไปตั้งแต่ปี 2544 แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เขาเป็นคนที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเปิดเผยมาโดยตลอด กล้าบอกให้พรรคประชาธิปัตย์ขอโทษประชาชน หลังกรณี ส.ป.ก.4-01 และวันนี้เขาก็ปรากฏตัวอีกครั้ง "พิชัย" วิจารณ์ "อภิสิทธิ์" และการทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา เขาเรียก "อภิสิทธิ์" ว่า "ไอ้หลานชาย" ชื่นชมในความซื่อสัตย์สุจริต แต่ให้คะแนนรัฐบาลแค่ 5 เต็ม 10 เขาวิจารณ์ "อภิสิทธิ์" ทั้งเรื่องการเจรจากับ "ทักษิณ" นโยบายต่างประเทศ นโยบายประชานิยม และที่สำคัญ "ไม่รู้จักใช้คน" "พิชัย" เปิดประเด็นแรกเรื่องปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย "ทุกปัญหามีทางออก เพียงแต่เรายอมซึ่งกันและกันบ้าง ถ้าทุกฝ่ายตั้งแง่ก็ไม่มีทางลงเอยได้ สรุปก็คือ แม้ปัญหาจะมากมาย แต่ทางออกยังมี เพียงแต่ต้องเสียสละกันบ้าง" เมื่อถามถึงเรื่อง "คนกลาง" ในการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร "พิชัย" มองว่า "คนเดียวทำไม่ได้" ข้อเสนอของเขาคือ ต้องทำเป็นกลุ่มคณะ เริ่มต้นจาก 2 ฝ่ายต้องหา "คนกลาง" ที่ไม่มีความลำเอียง ทั้งรัฐบาลและ "ทักษิณ" ต้องไม่มีการตั้ง "เงื่อนไข" ก่อนนั่งโต๊ะเจรจา และการนั่งคุยกันต้องเป็น "ความลับ" ประเด็นสำคัญที่ "พิชัย" ย้ำคือ ห้ามมีเงื่อนไข "ถ้าผมเป็นคุณทักษิณ ผมก็รับเงื่อนไขของรัฐบาลไม่ได้ และถ้าผมเป็นรัฐบาล ผมก็รับเงื่อนไขของคุณทักษิณไม่ได้" เขายกตัวอย่างเรื่องการการเจรจากับประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ว่าไม่เคยมีเงื่อนไขว่าประเทศนั้นต้องเลิกเป็นคอมมิวนิสต์ก่อน เราถึงจะเจรจา "อย่าตั้งเงื่อนไข ไม่ใช่บอกว่าคุณทักษิณต้องกลับมาติดคุกก่อน" "นั่งโต๊ะเจรจาก่อน ถึงเวลานั้นค่อยวางเงื่อนไขลงมา ทั้ง 2 ฝ่ายจะรู้เลยว่าจุดยืนหรือเงื่อนไขของ 2 ฝ่ายเป็นอย่างไร" แต่การเจรจาจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "ต้องมีการอะลุ้มอล่วยกันพอสมควร ถ้าไม่ยอมกันเลยก็เจรจาไม่สำเร็จ" เมื่อถามว่ารัฐบาลบอกว่าเงื่อนไขสำคัญคือเรื่องการยอมรับกฎหมาย "ตราบใดที่พูดถึงเงื่อนไข ไม่มีทางเจรจากันได้" เขาเล่าว่ามีคนทั้งจากรัฐบาลและ "ทักษิณ" มาคุยกับเขาเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และ "พิชัย" ก็เสนอแนวทางนี้ไปแล้ว มีคนกลาง ห้ามมีเงื่อนไข และคุยกันเงียบๆ
....
7 ปีที่แล้ว "พิชัย" ออกมาเคยวิพากษ์ตนเอง วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์อย่างตรงไปตรงมาว่า "พรรคประชาธิปัตย์มีแต่นักการเมือง ไม่ค่อยมีนักบริหาร" เขาบอกว่า ต่อไปนี้นักการเมืองต้องต่อสู้ด้วยนโยบายและชั้นเชิงการบริหาร หัวหน้าพรรคต้องเป็นนักบริหาร เพื่อดึงคนเก่งมาร่วมกันทำนโยบายที่ถูกใจประชาชน "พิชัย" วิจารณ์ "ชวน" ว่าเป็นคนดีสารพัดอย่าง เคยเป็นหัวหน้าสำนักงานทนายความ แต่ไม่เคยบริหารงานขนาดใหญ่ "ในยุคนี้ถือว่าไม่ถึงใจ" เป็นประโยคเด็ดของ "พิชัย" เมื่อปี 2545 ไม่แปลกที่วันนี้เขาจะมอง "อภิสิทธิ์" ในมุมมองของนักบริหารที่มากประสบการณ์ ประเด็นแรก เขามองว่า "ไอ้หลานรัก" ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ควรทำ เช่น เรื่องการแจกเช็ค 2,000 บาท และอื่นๆ ที่สำคัญเมื่อมีนโยบายเหล่านั้น นายกฯ ไม่ควรไปเอง "เสียเวลา เอาเวลาไปคิดดีกว่า" แต่ประเด็นที่แรงกว่านั้น ก็คือ เรื่อง "ไม่รู้จักใช้คน" "รัฐบาลทำงานโดยคนไม่กี่คน" เมื่อถามว่าในพรรคประชาธิปัตย์มีบุคลากรที่มีฝีมือจำนวนมาก "เยอะแยะ ไม่รู้จักใช้คน คนดีๆ มีความรู้มากมายแต่ไม่รู้จักใช้ คนที่อยากจะช่วยมีมาก อย่างที่คุณจอมถามว่าทำไมผมไม่บอกคุณอภิสิทธิ์ ก็เขาไม่เคยถามจะให้บอกอย่างไร" "พิชัย" บอกว่าจุดอ่อนของ "อภิสิทธิ์" คือเรื่องนี้ เขามีที่ปรึกษาของแต่ละหน่วยงานไม่มากพอ ทั้งที่ "ประชาธิปัตย์" มีคนเก่งเยอะ และคนนอกพรรคก็พร้อมช่วย ถามว่าเหตุผลที่ "ไม่รู้จักใช้คน" มาจากอะไร คำตอบของ "พิชัย" แรงมาก "คำตอบก็คือ มันมาจากสันดานคนที่ไม่เหมือนกัน สันดานของคนที่ไม่รู้จักใช้คน"
...... ( อ่านฉบับเต็ม ๆ ที่มติชนสุดสัปดาห์ ซึ่งวางแผง อยู่ในขณะนี้)
