บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

เปลี่ยนวิธีตั้ง ครม.

ที่มา ไทยรัฐ

โปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว 4 รัฐมนตรีหน้าใหม่กับ 1 รัฐมนตรีหน้าเก่า ตามที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เย็นวันนี้จะเข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะเข้ารับหน้าที่

สี่รัฐมนตรีหน้าใหม่ก็มี ไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นรองนายกฯเศรษฐกิจ

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ เป็นรัฐมนตรีศึกษาฯ สุชาติ โชคชัยวัฒนากร เป็นรัฐมนตรีช่วยคมนาคม นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ เป็นรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข ส่วนรัฐมนตรีหน้าเก่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ย้ายจากศึกษาฯไปเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข

นายสุชาติ รัฐมนตรีช่วยคมนาคม เป็นใครผมไม่รู้จัก ถามชาวบ้านทั่วไปก็คงไม่รู้จัก ไม่มีใครรู้มีฝีมือความรู้แค่ไหน เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี ช่วยคมนาคมหรือไม่ รู้แต่ว่า ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลส่งมา จะเป็นแค่ "รัฐมนตรีนอมินี" เหมือนรัฐมนตรีมากมายในรัฐบาลนี้หรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ

ส่วน นางพรรณสิริ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนอุดมดรุณี จังหวัดสุโขทัย เป็นน้องสาวของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้มีบารมีทางการเมืองอีกคนส่งมาเป็นรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข

คุณพรรณสิริเปิดเผยประวัติตัวเองว่า ลาออกจากครูมาทำหน้าที่เป็นแม่บ้านดูแลแม่ และช่วยงานพี่ชายในพื้นที่สุโขทัย ไม่กี่วันก่อนนายสมศักดิ์มาชวนให้เป็นรัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข ก็ตกใจ เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ

มาก่อน ได้ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่นายสมศักดิ์ก็ยืนยันว่า ได้คุยกับผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยแล้ว

ใน "รัฐบาลจับฉ่าย" ของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชุดนี้

การมี "น้อง" ผู้มีบารมีทางการเมืองที่มาจาก "แม่บ้าน" มาเป็น รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข อีกสักคน ก็คงไม่ขี้เหร่ไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะรัฐบาลนี้มีทั้ง "พ่อ" ทั้ง "น้อง" ทั้ง "เมีย" ทั้ง "กิ๊ก" ทั้ง "เพื่อน" ทั้ง "ลูกน้อง" ถูกส่งมาเป็น "รัฐมนตรีนอมินี" กันเต็มไปหมดทั้ง ครม.อยู่แล้ว ตบหน้า
คนไทยทั้งประเทศไม่รู้กี่ฉาดแล้ว

ไม่รู้สึกเศร้าใจบ้างเลยหรือพ่อแม่พี่น้องคนไทยเอ๋ย

ผมเขียนไปก็สงสารประเทศไทยของผมไป คนไทยมีตั้ง 64 ล้านคน จบการศึกษาระดับ "ด็อกเตอร์" หลายหมื่นคน "ปริญญาโท" หลายแสนคน "ปริญญาตรี" อีกไม่รู้กี่ล้านคน แต่เรากลับ "ทอดทิ้งประเทศของเรา" ให้ หัวหน้าพรรคการเมืองไม่กี่คน นับไม่ครบนิ้วด้วยซ้ำ และ ลูกน้องในสภาอีกไม่ถึง 1,000 คน ปู้ยี่ปู้ยำประเทศไทยของคนอีก 64 ล้านคนได้ตามอำเภอใจ

จะตั้งพ่อตั้งเมียตั้งกิ๊กตั้งน้องเป็นรัฐมนตรีก็ได้ มีความรู้ความสามารถหรือไม่ ไม่สนใจ ขอให้อยู่ในโอวาททำตามคำสั่งเพื่อผลประโยชน์ของตนก็พอแล้ว

เราไม่รู้สึกละอายใจกันบ้างหรือที่ทอดทิ้งประเทศของเราอย่างนี้

ใน กระบวนการแต่งตั้งรัฐมนตรี ของประเทศต่างๆ ดีที่สุดผมคิดว่าน่าจะเป็น "สหรัฐอเมริกา" รัฐมนตรีของเขาแต่ละคน กว่าจะฝ่าด่านหิน

เข้ามาเป็นรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ ต้องเป็น "ทองแท้" ที่ผ่านการเจาะพิสูจน์จนถึงแก่นหลายขั้นตอน ไม่ใช่ใครมีบารมีก็ตั้งใครเป็นรัฐมนตรีก็ได้ โดยไม่แคร์ความรู้สึกประชาชน

รัฐมนตรีสหรัฐฯ ขั้นแรกจะต้องผ่านการคัดกรองและกลั่นกรองจากพรรคและทีมงานประธานาธิบดีเสียก่อน เพื่อตรวจสอบประวัติว่า สะอาดไม่มีเรื่องมัวหมอง มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับกระทรวงที่จะเป็นรัฐมนตรี จากนั้นจึงส่งให้ประธานาธิบดีเสนอชื่อไปยัง วุฒิสภา เพื่อทำการกลั่นกลองซักฟอกกันอีกรอบ เพื่อขอความเห็นชอบ ถ้าวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ก็ต้องเสนอคนใหม่

ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีสหรัฐฯบางคน มีความรู้ความสามารถผ่านทุกอย่าง แต่ทำผิดจริยธรรม ไปจ้างแม่บ้านที่เป็นคนหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานบ้าน ความผิดแค่นี้เอง เขาก็มีสปิริตถอนตัวจากการเป็นรัฐมนตรีทันที ไม่ต้องผิดแบบเขายายเที่ยงหรอก

ทำอย่างไร ประเทศไทยของเราจึงจะมี "กระบวนการกลั่นกรองรัฐมนตรี" แบบนี้บ้างในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้ส่ง "พ่อ–น้อง–เมีย–กิ๊ก–ลูกน้อง" มาเป็น รัฐมนตรีนอมินี ผมขอฝากไปคิดเป็นการบ้านในอนาคตครับ ก็ยังโชคดีนะเนี่ยที่ยังไม่มีใครส่ง "คุณแม่" มาเป็นรัฐมนตรีแทน ไม่งั้นก็ครบทั้งครอบครัว.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker