บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ปฏิบัติการ ‘ตบหน้าทหาร’ ระเบิดการเมือง!

ที่มา บางกอกทูเดย์

อย่างที่ “บางกอกทูเดย์” เคยนำเสนอประเด็นข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่า...กรณีพักราชการทหารของ “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อาจเป็นการ“สุมไฟการเมือง” ให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นแม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุปสำหรับปฏิบัติการ เย้ยฟ้าท้าดินที่ บก.ทบ.ถูกมือดียิงเอ็ม 79 เข้าใส่ เมื่อวันที่

14 ม.ค.ที่ผ่านมาว่าเป็นฝีมือเสธ.แดงหรือไม่?แต่ปรากฏการณ์ครั้งนี้ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีกรณีพิพาทระหว่าง “บิ๊กป๊อก” กับ “เสธ.แดง”ระเบิดการเมืองลูกนี้
ถือว่าท้าทายบรรดา “นักรบบูรพาพยัคฆ์”ที่กุมอำนาจทางทหารอย่างมากและถือเป็นการข่มขู่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ลูกระเบิดเอ็ม 79 ข้ามรั้วแดงกำแพงเหลือง ของ บก.ทบ.ได้แบบจับมือใครดมไม่ได้แน่นอนว่า...แนวทางการสอบสวนได้พุ่งเป้าไปที่คู่อริ ผบ.ทบ.อย่าง เสธ.แดงที่ก่อนหน้านี้ออกมา

ขู่แล้วว่า “ผบ.ทบ.จะออกจาก บก.ทบ.ไม่ได้”หลังจากที่เขาถูกสั่งพักราชการไป เมื่อเร็วๆ นี้จากคำให้การของ เสธ.แดง ที่ยังให้การภาคเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นเพราะวันที่เกิดเหตุขึ้นอยู่ต่างจังหวัดจึงอาจเป็นฝีมือบุคคลอื่นที่ไม่พอใจ ผบ.ทบ.ฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ช่วงที่เขาขัดแย้งกับผบ.ทบ.อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นน่าสังเกตว่า...เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นผ่านไปเกือบ 1 อาทิตย์ แล้วข่าวเพิ่งปรากฏออกมาเมื่อกระจอกข่าวสายทหารพบความ “ไม่ชอบ

มาพากล”ของมาตรการคุมเข้มรอบสโมสรทหารบก เมื่อช่วงคํ่าวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมี “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ประธานองคมนตรี นายกฯและ ผบ.เหล่าทัพ เข้าร่วมงานโดยความไม่ชอบมาพากล คือ การวางกำลังทหารโดยรอบงานอย่างหนาแน่นทั้งกำลังพลจาก ร.1 รอ. กำลังพลจาก สารวัตรทหารบก (สห)สุนัขตำรวจ ตรวจตราถี่ยิบ รวมทั้งเพิ่มกล้องซีซีทีวีอีกเพียบขณะที่ “บิ๊กป๊อก” เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้นปรับเปลี่ยนระบบการรักษาความปลอดภัย โดย

เฉพาะการเพิ่มรถขบวนติดตามจากรถฉลามบก 2 คัน ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ รปภ.พร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน และรถวิทยุนำขบวน และปิดท้ายขบวนรวมถึงมีการเพิ่มกำลังพลในการรักษาความปลอดภัยในบ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 2 ที่นางกุลยา เผ่าจินดาภรรยาและบุตรพักอาศัยอยู่งานนี้เลยถูกผูกโยงประเด็นบวกกับก่อนหน้านี้ใกล้กับวันที่เกิดเหตุมีโทรศัพท์ลึกลับ แจ้งว่ามีระเบิดใน บก.ทบ. จึงทำให้ประเด็นนี้ถูกขยายและตรวจสอบที่มาที่ไป กลายเป็นประเด็นร้อนให้กอง

ทัพ ปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างที่เห็นจะว่าไปแล้ว...นอกเหนือปฏิบัติการ “ตบหน้ากองทัพ” ในครั้งนี้แล้วระเบิดการเมืองที่เกิดขึ้นในคดีล้วนแล้วแต่มีนัยยะทางการเมืองทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุยิงหน้าศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงกลางเวทีพันธมิตรฯในทำเนียบรัฐบาล หรือแม้แต่ในสำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวโยงคดีทางการเมืองทั้งสิ้นด้วยความที่อาวุธชนิดนี้ต้องอาศัยความชำนาญในการใช้ จึงถูกมองว่าผู้ที่ใช้เอ็ม 79 ได้ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

เพราะลักษณะการยิงจะยิงได้ทั้งวิถีกระสุนโค้ง และยิงขนานไปกับพื้นและต้องประทับบ่าเหมือนปืนลูกซองถ้าเป็นพลเรือนที่ไม่ได้รับการฝึกฝน...แน่นอนว่าอาจถูกแรงถีบจากเครื่องยิงลูกระเบิดชนิดนี้ได้เพราะเอ็ม 79 เป็นปืนยิงระเบิด ส่วนใหญ่จะใช้ยิงวิถีโค้งระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 350 เมตร บรรจุกระสุนครั้งละ 1 นัด มีความคล่องตัวสูงเพราะไม่หนักจนเกินไปปืนชนิดนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มทหารและกองทัพต่างๆ ซึ่งไว้ใช้สนับสนุนกับยานพาหนะพวก

รถถังโดยเฉพาะเป็นอาวุธสงครามที่เคยใช้แพร่หลายในสงครามเวียดนามซึ่งเป็นการรบแบบกองโจร ที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ต้องพ่ายแพ้มาแล้วแต่งานนี้จะเกี่ยวข้องกับการประกาศ “รบแบบกองโจร”ของ เสธ.แดง ที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้หรือไม่ ยังไม่มีคำตอบให้ในเรื่องนี้ เพราะเนื้อเรื่องเพิ่งเริ่มต้นและกำลังจะเข้มข้นขึ้นทุกขณะ จนต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา! 

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker