หยืนตัวห่าวจั้วซื่อแปลเป็นไทยว่า...ยิ่งคนมากยิ่งทำงานได้ดีบนความเป็นพรรคเพื่อไทยนั้น...กับบทบาทของคนเสื้อแดง...นั้น...หากมองแบบผิวเผินแล้ว ก็จะดูว่าแน่นหนาและน่าเกรงขาม...พรรคเพื่อไทย...ในรุ่นที่ 3 หลังจากการถูกกำราบปราบปรามมาแล้วถึง 2 ชั่วอายุ...แต่ก็ยังดำรงคงความเป็นพรรคใหญ่อยู่ได้...กลุ่มคนเสื้อแดง...กับอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด...การขานรับจากประชาชนในเกือบจะทุกแห่งหน...การปรากฏตนในจังหวัดพัทลุงและจังหวัดเพชรบุรี...ยืนยันได้ว่า...หากนับดับด้วยพลังประชาชนแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดง...นับได้ว่าอยู่บนแถวหน้าสุดของการเมืองบนบาทวิถีทั้งพรรคเพื่อไทยทั้งคนเสื้อแดงมีความ
เกี่ยวข้องพัวพันกับ พันตำรวจโท ดอกเตอร์ ทักษิณ ชินวัตร...อย่างลึกซึ้ง...และเดินไปในแนวทางเดียวกันคือการสร้างประเทศในระบอบประชาธิปไตยและต่อสู้ต่อต้านเผด็จการทั้งเต็มรูปและซ่อนรูปทว่า...หากพิเคราะห์กันให้ลึกเข้าไปแล้ว...ในความเป็นแนวร่วมโดยธรรมชาตินั้น...มคี วามแตกแยกแอบแฝงอยู่และพร้อมที่จะเป็นแผลใหญ่ไม่วันใดก็วันหนึ่งเป็นปรากฏการณ์เดียวกันกับการที่...สมาชิกพลังประชาชนจำนวนหนึ่ง...แบ่งแยกแตกตัวไปเป็นพรรคภูมิใจไทยแล้ว
นำแนวร่วมทั้งหลายตามออกไปด้วยในวันที่สงครามแตกหักกำ ลังใกล้เข้ามา...ความแปลกแยกตรงนี้จำเป็นจะต้องได้รับการบำบัดปัดเป่า...ฝ่ายเสนาธิการของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องสถาปนาความเป็นเอกภาพให้มั่นคงแน่นหนาและละลายความแปลกแยกมันเป็นอารมณ์แห่งปุถุชน...ให้นำมาอธิบายได้ในโต๊ะสนทนาแนวรบบนท้องถนน กับแนวรบในรัฐสภา...จะต้องผสมผสานกลมกลืนกันให้ได้...และทนทานต่อความอ่อนไหวของอารมณ์แห่งปุถุชนตรงนี้เป็นภารกิจของ ทักษิณ ชิน
วัตร...ตรงนี้เป็นวีซ่า...ที่จะพาเขากลับบ้านแต่สิ่งที่สำคัญกว่า...คือสำนึกที่ว่า...การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของประชาชนผู้ปรารถนาในเสรีภาพและประชาธิปไตย...กับประชาธิปไตยแบบคลุมถุงชน...ที่สถาปนาขึ้นมาโดยพรรคประชาธิปัตย์กับกองทัพ...สร้างสำ นึกเช่นว่าให้จมลึกอยู่ในหัวใจของประชาชน...ทั้งเพื่อไทยทั้งฝ่ายเสื้อแดง...จะต้องไม่แย่งกันใหญ่ไม่ชิงกันนำ...ต้องชนะทั้งในสงครามและในการต่อสู้