รายงานพิเศษ
โดยเฉพาะในปี 2552 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็น "ตัวเอก"
ไม่ว่าสื่อสำนักไหน ทั้งที่ตั้งใจเลือกข้าง หรือถูกกล่าวหาเอียงเข้าข้างสีใดสีหนึ่ง แต่จะในมุมไหน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ตกเป็นข่าวพาดหัวตัวไม้ได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ยังจัดให้เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ข่าวมากที่สุดคนหนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการสกัดกั้นของรัฐบาล ที่ยิ่งพยายามก็ยิ่งดูเหมือนเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่เคยหยุดการเคลื่อนไหว
และที่สำคัญยังได้ปรับการต่อสู้มาสู่เกมบุกเต็มรูปแบบ โดยเลือกยุทธวิธีทำสงครามผ่านสื่อ หรือแอร์วอร์ ตามที่ตัวเองถนัด
อดีตนายกฯ เริ่มรุกด้วยการโฟนอิน พูดคุยกับแฟนคลับเสื้อแดงข้ามประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือ
การโฟนอินเข้าร่วมรายการความจริงวันนี้นัดพิเศษ 25 ม.ค. ที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือนปช. แดงทั้งแผ่นดิน เปิดเวทีให้นายใหญ่ พูดคุยนานเป็นชั่วโมง ถือเป็นการเปิดตัวการโฟนอินได้อย่างสวยงาม
เพราะนับจากนั้นการชุมนุมของเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดไหน ชุมนุมย่อยหรือใหญ่ หรือเสื้อแดงกลุ่มใดเป็นคนจัด ก็จะใช้การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจุดขายเรียกคน
จากการโฟนอินที่ได้ยินแต่เสียงพัฒนามาสู่ระบบวิดีโอลิงก์ เห็นภาพแบบตัวเป็นๆ พร้อมเสียงมายังเวทีปราศรัย
มีการนำมาใช้ในช่วงการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงที่เชียงใหม่ จนถึงการชุมนุมใหญ่ของเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ช่วงปลายมี.ค. ต่อเนื่องถึงเหตุการณ์สงกรานต์เลือด
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำคู่ขนานกับการโฟนอินมาตลอดคือการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเป็นระยะ และยังมีสถานีโทรทัศน์พีทีวี ที่แปรสภาพมาเป็น ดี สเตชั่น ในปัจจุบัน เป็นกระบอกเสียงอีกทาง
พ.ต.ท.ทักษิณ และทีมงานไม่ได้หยุดแค่นั้น
ช่วงกลางปี มีการเปิดช่องทางให้แฟนคลับติดต่อสื่อสารและติดตามความเคลื่อนไหวได้อีก 6 ช่องทาง
คือ เว็บไซต์ ทักษิณไลฟ์ดอทคอม www. thaksinlives.com เป็นข่าวสารทั่วไปของพ.ต.ท. ทักษิณ
เว็บไซต์ ทักษิณไลฟ์ดอทคอม/เรดิโอ www. thaksinlives.com/radio รายการวิทยุ ที่พ.ต.ท. ทักษิณ จัดทุกหัวค่ำวันอังคาร
เฟซบุ๊ก (Face book) ได้รับความนิยมในช่วงแรกๆ แต่ต่อมาแฟนคลับนิยมติดต่อทางทวิตเตอร์ (Twitter) ซึ่งมีอยู่ 2 ช่องทาง คือ thaksinlives เป็นพูดคุยและแลกเปลี่ยนข่าวสารทั่วไป และ thaksinbiz ที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจสอบถามปัญหาและขอคำแนะนำต่างๆ
นอกจากนี้ ยังสามารถส่งข้อความเอสเอ็มเอสผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ที่ประชาชนสามารถส่งขอรับข้อความได้เสียค่าบริการในการส่งครั้งแรก 3 บาท จากนั้นจะรับข้อมูลจากพ.ต.ท.ทักษิณ ฟรีตลอดจนกว่าจะเลิกใช้บริการ
ที่เปิดตัวพร้อมกับการส่งเอสเอ็มเอส ทักทายสมาชิกครั้งแรกของพ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 1 พ.ย. คือการเปิดทีวี 100 ช่อง
ในจำนวนนี้ 3 ช่อง พ.ต.ท.ทักษิณ โฆษณาเอาไว้ว่าทำเพื่อคนไทย คือช่องโฆษณาสินค้าโอท็อป เรียลลิตี้แก้ปัญหาคนจน และช่องกวดวิชา
เป็นการผลิตรายการที่เมืองไทย และยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมแพร่ภาพไปทั่วโลก
ถึงวันนี้เรื่องทีวี ยังไม่มีความคืบหน้าปรากฏต่อสาธารณะ ไม่รู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำได้อย่างที่คุยไว้หรือไม่ แต่ที่ได้ไปก่อนแล้วคือได้เสียงจากชาวบ้าน
การเปิดสงครามข้อมูลข่าวสารที่ถือว่ายากสำหรับรัฐบาลแล้ว ที่เป็นงานหินยิ่งกว่าคือการที่พ.ต.ท.ทักษิณยืมมือต่างชาติเคลื่อนไหว ซึ่ง ถูกระบุว่าเป็นแผนโลกล้อมประเทศไทย
นอกจากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเป็นระยะตลอดทั้งปี การอ้างอิงถึงความสัมพันธ์กับผู้นำประเทศขนาดเล็ก
ที่ได้ผลและถือว่าครึกโครมอย่างยิ่ง คือการใช้ต่างชาติเป็นฐานบัญชาการ
เป็นแผน "ชักศึกเข้าบ้าน" ประสานการทำ "ศึกใน" ที่มีเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยเป็นกำลังหลัก
เดิมพ.ต.ท.ทักษิณ มีความพยายามจะใช้ฮ่องกงเคลื่อนไหว เคยใช้เป็นสถานที่นัดพบกับญาติพี่น้อง แกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็หลายครั้ง
แต่ติดว่าฮ่องกงเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ที่ความสัมพันธ์ระดับประเทศถือว่าแนบแน่นกับไทยมายาวนาน และมีสัญญาทาง การทูตเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน จึงสะดุดไปในที่สุด
พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องถอยไปตั้งหลักที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ที่ใช้เป็นที่พำนักยาวนานมาตั้งแต่ออกจากอังกฤษ
แต่ช่วงหลังรัฐบาลประสานขอความร่วมมือทางการทูต ขณะเดียวกัน ข่าวคราวการใช้ยูเออี เคลื่อนไหวทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มถี่ขึ้น อาจทำให้รัฐบาลยูเออี เริ่มกังวลต่อสายตาชาวโลก การเคลื่อนไหวในดูไบ จึงไม่ราบรื่น
พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นกัมพูชา ที่มีข้อดีกว่าตรงที่เป็นเพื่อนบ้านมีอาณาเขตติดกับไทย สะดวกต่อการบัญชาการรบของกลุ่มเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยอย่างใกล้ชิด
ที่สำคัญนายกฯ ฮุนเซน ของกัมพูชา ให้ความร่วมมือ ชนิดที่พ.ต.ท.ทักษิณ เองอาจคิดว่าดีเกินคาด
และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ทำสำเร็จอีก เพราะความขัดแย้งของกัมพูชาเป็นประเด็นร้อนเขย่ารัฐบาลได้ข้ามปี
การเดินเกมของพ.ต.ท.ทักษิณ ช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ประเมินได้ถึงความร้อนระอุของการเมืองในปี 53
เมื่อเสื้อแดงประกาศสงครามครั้งสุดท้ายปลายม.ค.
พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกผ่านแฟนคลับทางทวิตเตอร์ จะกลับไทยไม่เกินกลางปีนี้